กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--
บมจ.ชีวาทัย (CHEWA) เผย TEE Development PTE Ltd. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นจากประเทศสิงคโปร์ ขายหุ้น CHEWA ให้ "กลุ่มพานิชชีวะ" ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นขยับขึ้นเป็นร้อยละ 67.64แจงธุรกรรมดังกล่าวไม่กระทบต่อโครงสร้างการบริหารงาน ซึ่งหลังจากนี้ CHEWA จะเป็นของคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่บริหารงานโดยกลุ่มพานิชชีวะ ที่พร้อมลุยธุรกิจอย่างเต็มที่ตามแผนที่ได้วางไว้ เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าและสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับผู้ถือหุ้น
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) (CHEWA) เปิดเผยว่า TEE Development PTE Ltd. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นจากประเทศสิงคโปร์ได้ขายหุ้น CHEWA จำนวน 162,743,861 หุ้น ที่ราคา 1.33 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 12.76% ให้กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ "บริษัท ชาติชีวะ จำกัด" ส่งผลให้ "บริษัท ชาติชีวะ จำกัด" มีสัดส่วนการถือหุ้นใน CHEWA เพิ่มเป็นจำนวน 862,419,161 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 67.64 ของจำนวนทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของ CHEWA
พร้อมกันนี้ Mr. Phua Cher Chew กรรมการ และ Mr. Chung Tang Fung กรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ และประธานกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน ได้แจ้งลาออกจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป
"บริษัทฯ ขอยืนยันว่าจากการที่ TEE Development PTE Ltd.ขายหุ้น CHEWA ทั้งจำนวนให้กลุ่ม "พานิชชีวะ" จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหารงาน และไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ของ CHEWA เนื่องจาก CHEWA ยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติภายใต้ทีมบริหารชุดปัจจุบัน อีกทั้งยังมองว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลเชิงบวกต่อบริษัทฯ เนื่องจากมีความชัดเจนในด้านโครงสร้างผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งที่เป็นผู้ก่อตั้ง นั่นคือ "บริษัท ชาติชีวะ จำกัด" ซึ่งเป็นของครอบครัวพานิชชีวะ หรือคุณชาติชาย พานิชชีวะ โดย "ชาติชีวะ" จะทุ่มทำงานอย่างเต็มที่เพื่อดำเนินธุรกิจให้เป็นตามแผนงานที่ได้วางไว้ทุกประการ และมีเป้าหมายที่จะทำให้องค์กรมีความมั่นคงอย่างแข็งแกร่ง สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างยั่งยืนในอนาคต"นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว
ในปีนี้ CHEWA ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานตามแนวทาง โดยมีแผนพัฒนาโครงการจำนวน 6 โครงการใหม่ และอีก 2 โครงการร่วมทุน คิดเป็นมูลค่ารวม 6,300 ล้านบาท ซึ่งจากแผนพัฒนาโครงการต่างๆ รวมถึงการทยอยรับรู้รายได้จากยอดขายรอโอนอยู่ในมือสำหรับโครงการที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้ในปี 2561 ทำให้มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% จากปี 2560