กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
กรมส่งเสริมสหกรณ์ลงพื้นที่ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชา ลุ่มน้ำปิง นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชา ในเขตพื้นลุ่มน้ำปิง "การพัฒนาระบบกสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง" ระยะที่ 1 ณ บ้านสองธาร ตำบลบ้านทับ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพื้นที่เป้าหมายใน 3 ตำบลของอำเภอแม่แจ่ม ตำบลกองแขก ตำบลบ้านทับ และตำบลเคิ่ง ซึ่งสภาพพื้นที่ของอำเภอแม่แจ่มในปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องหมอกควันจากการ เผาป่า ผืนดินถูกทำลายจากการชะล้างหน้าดิน และเกษตรกรยังยึดอาชีพการปลูกพืชเชิงเดี่ยว คือ ข้าวโพด ส่งผลทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้ไม่เพียงพอและยังมีหนี้สินพอกพูนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านสองธารส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก และจากการสำรวจพบว่า ชาวบ้านในอำเภอแม่แจ่ม เป็นหนี้สถาบันการเงินอยู่ประมาณ 25 ล้านบาท กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้เข้ามาช่วยหาแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และธนาคารออมสิน วางแผนและกำหนดแนวทางการพักชำระหนี้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ กล่าวว่า ปัญหาหนี้สินของชาวบ้านอำเภอแม่แจ่มนั้น จะต้องเริ่มจากการหยุดหนี้หรือพักหนี้ก่อน แล้วค่อยไปปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจากการเจรจากับทั้ง 2 สถาบันการเงิน จึงเป็นที่มาของโครงการช่วยเหลือบรรเทาปัญหาหนี้สินร่วมกันระหว่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน และสหกรณ์ ในเบื้องต้นจะต้องพักชำระต้นเงินและดอกเบี้ยใน 3 ปีแรก โดยให้ดอกเบี้ยเดิมแขวนไว้ในปีสุดท้ายของโครงการ หากชำระเงินกู้ตามงวดที่ได้รับการจัดสรรใหม่ได้ ก็จะลดดอกเบี้ยเดิมให้ครึ่งหนึ่ง เพื่อนำหนี้เงินกู้เดิมมาจัดชำระงวดใหม่ โดยเริ่มชำระหนี้คืนสถาบันการเงินตั้งแต่ปีที่4 เป็นต้นไป อย่างน้อยร้อยละ 10 ของเงินต้น พร้อมดอกเบี้ย และจะขอรับการอุดหนุนดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นใหม่ ร้อยละ 3 ต่อปี ใน 5 ปีแรกจากรัฐบาล โดยเกษตรกรจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการที่กำหนด คือจะต้องดำเนินการตามศาสตร์พระราชาอย่างเข้มแข็ง ส่วนเกษตรกรที่ต้องการเงินทุนเพื่อนำไปฟื้นฟูการผลิตและการประกอบอาชีพใหม่ สามารถขอสินเชื่อในรูปแบบกลุ่ม ผ่านสถาบันของเกษตรกรและขอรัฐบาลอุดหนุนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี โดยโครงการนี้มีระยะเวลา 10 ปี โดยมุ่งหวังว่า 3 ปีแรก จะช่วยพลิกฟื้นคืนธรรมชาติที่สมบูรณ์ให้กลับคืนมา และพื้นที่ทำการเกษตรมีสภาพดินและน้ำที่สามารถเพาะปลูกได้ ตามแนวทางศาสตร์พระราชา คาดว่าภายใน 10 ปี เกษตรกรจะสามารถปลดหนี้สร้างชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นได้
ปัจจุบันมีชาวบ้านในหมู่บ้านสองธาร 13 รายได้ลงชื่อเข้าร่วมโครงการและร่วมกันทำกิจกรรมของชุมชนในรูปแบบของการเอามื้อสามัคคี" โดยทุกคนจะร่วมแรงร่วมใจทำงานในพื้นที่แปลงของแต่ละคน และให้น้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ในการดำเนินการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชาลุ่มน้ำปิง มุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร ด้วยการสร้างความมั่นคงในที่ดินทำกิน สร้างป่า สร้างรายได้ ลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว และร่วมกันหยุดเผาป่า ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหมอกควันในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม เพื่อมุ่งสู่การเป็นชุมชนต้นแบบของอำเภอแม่แจ่มในอนาคตต่อไป