กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเมนท์
บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเมนต์ จำกัด และบริษัท ดอชเช่อ เมสเซ่ เอจี ประเทศเยอรมนี ร่วมแถลงการจัดงาน CEBIT ASEAN Thailand ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนำแรงบันดาลใจจากงาน CEBIT ที่รู้จักกันดีทั่วโลก ไปจัดในประเทศไทยเป็นที่แรกและที่เดียว ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 18 - 20 ตุลาคม 2561
CEBIT ASEAN Thailand มีรูปแบบการจัดงานใกล้เคียงกับรูปแบบของงาน "ICT & Digital Business" หรือ CEBIT ที่จัดขึ้นที่ประเทศเยอรมนี โดยบริษัท ดอชเช่อ เมสเซ่ เอจี (Deutsche Messe AG) ทั้งนี้ CEBIT ASEAN Thailand ประกอบไปด้วยการแสดงสินค้า งานประชุม และโซนเฟสติวัล รวมถึงพาวิลเลียนนานาชาติ ที่บรรดาผู้แสดงสินค้าจากยุโรป และเอเชียจะร่วมแสดงผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมใหม่ๆ
CEBIT ASEAN Thailand ครอบคลุมทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพลิกโฉมธุรกิจ และสังคมสู่ความเป็นดิจิทัล โดยในงานครั้งแรกนี้จะมุ่งเน้นด้าน:
- การสื่อสาร โครงสร้างเครือข่าย และความปลอดภัย
- ข้อมูลและคลาวด์
- โซลูชั่นทางธุรกิจ
- อุปกรณ์ต่อพ่วง และอุปกรณ์เสริม
- IOT และเทคโนโลยีอัจฉริยะ
- เทคโนโลยีใหม่ (AR/ VR/ อากาศยานไร้คนขับ (UAV)/ หุ่นยนต์/ การพิมพ์สามมิติ)
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ด้านระบบนวัตกรรม กล่าวว่า "สตาร์ทอัพทั้งในประเทศ และต่างประเทศมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมนี้ ดังนั้นสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ จึงสนับสนุนให้สตาร์ทอัพได้เข้าร่วมแสดงนวัตกรรมในงาน CEBIT ASEAN Thailand 2018"
ทำไมต้องประเทศไทย?
มร.ซาจิด ฮูเซนี ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายงานแสดงสินค้าภาคธุรกิจ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า "เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับบริษัท ดอชเช่อ เมสเซ่ เอจี ประเทศเยอรมนี ที่นำงาน CEBIT มาจัดที่ประเทศไทย ซึ่งการจัดงาน CEBIT ASEAN Thailand ในครั้งแรกนี้ ถือว่าเป็นโอกาสอันดี เนื่องจากรัฐบาลไทยได้เดินหน้าพัฒนาประเทศ ครอบคลุมไปในทุกอุตสาหกรรม และกำหนดนโยบายเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้เข้าสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัล ผ่านนโยบายไทยแลนด์ 4.0 วิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย หรือ โมเดลพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย โดยจะมุ่งเน้นความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และเทคโนโลยี"
จากการคาดการณ์พบว่า เศรษฐกิจดิจิทัลจะมีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนอุตสาหกรรมในประเทศไทย และคาดว่าจะมีสัดส่วนเท่ากับ 25% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ภายในปี 2570 นอกจากนี้ ในฐานะประเทศการค้า การขยายการค้าเสรีจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของไทย โดยเป้าหมายหลักของประเทศช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือ การรวมตัวกับพันธมิตรในอาเซียน และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างแน่นแฟ้นมากขึ้นอาทิ จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย
ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กล่าวว่า "งาน CEBIT ASEAN Thailand จะช่วยสร้างเศรษฐกิจฐานความรู้ในไทย และภูมิภาคอาเซียนโดยรอบ"
ขณะที่ ดร.ธีรวัฒน์ ภูมิจิตร เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเยอรมนี กล่าวว่า "กุญแจสำคัญที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม คือการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ "ประเทศไทย 4.0" โดยมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้เติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน การจัดงาน CEBIT ASEAN ในประเทศไทยครั้งนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการทำงาน และเรียนรู้ซึ่งกันและกันกับพันธมิตรจากนานาประเทศ ในการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน มิใช่เพียงแต่ตลาดของแต่ละภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตลาดโลก ตลอดจนการเตรียมพร้อมรับมือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสำหรับทุกคน และจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังในยุคดิจิทัลนี้"
การส่งเสริมอันแข็งแกร่งจากหน่วยงานรัฐบาลไทย และองค์กรในภูมิภาค
CEBIT ASEAN Thailand ได้รับการสนับสนุนอันแข็งแกร่งจากหลากหลายหน่วยจากภาครัฐ และพันธมิตรอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) รวมถึงผู้สนับสนุนการจัดงานจากนานาชาติ เช่น สมาคมคลาวด์คอมพิวติ้ง, ศูนย์ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเกาหลี, เอสจีเทค, สถาบันไทย-เยอรมัน หอการค้าผู้นำเข้าและผู้ส่งออกไถจง ประเทศไต้หวัน และอีกมากมาย
นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) กล่าวว่า "ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีพันธกิจส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาอุตสาหกรรมการจัดประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และงานแสดงสินค้านานาชาติ หรืออุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการจัดงานไมซ์ชั้นนำในระดับนานาชาติ ซึ่งการเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดงานนั้นเป็นการตัดสินใจทางธุรกิจที่ชาญฉลาด เนื่องจากงานที่ได้รับการสนับสนุนจาก TCEB มียอดผู้เข้าชมงาน และผู้ซื้อที่มีศักยภาพจากทั่วภูมิภาคอาเซียนเติบโตมากกว่า 100% ดังนั้นเราจึงมั่นใจว่าจากการสนับสนุนของเรา งาน CEBIT ASEAN Thailand จะมีก้าวเข้าสู่ตลาดอาเซียนได้อย่างมั่นคง และ ณ ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการจัดงาน CEBIT ที่เป็นเวทีในการสร้างโอกาสทางธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัด โดยได้รับอานิสงส์จากนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างร่วมลงทุนในโครงการ Digital Park Thailand หรือเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและ นวัตกรรมดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของก้าวย่างที่ยิ่งใหญ่ต่อเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคม ทั้งนี้ทาง TCEB ได้ยึดนโยบายประเทศไทย 4.0 เป็นแนวทางการทำงาน และพร้อมสนับสนุนให้งาน CEBIT ASEAN Thailand ประสบความสำเร็จโดยสวัสดี"
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cebitasean.com
เกี่ยวกับผู้จัดงาน
บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเมนท์ จำกัด
บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเมนท์ จำกัด (อิมแพ็ค) บริษัทผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าของประเทศไทย ให้บริการครบวงจรทั้งด้านการจัดงานแสดงสินค้าเพื่อประชาชนทั่วไป งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติเพื่อภาคธุรกิจ งานสัมมนา งานประชุม และงานอีเวนท์ต่างๆ อิมแพ็ค ได้รับการยอมรับจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในฐานะผู้เชี่ยวชาญในด้านการจัดงาน ด้วยประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับสมาคมและหน่วยงานในหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ทำให้อิมแพ็คสามารถเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างคุณในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญได้ในทุกอุตสาหกรรม
www.impact.co.th
ดอชเช่อ เมสเซ่ เอจี
ดอชเช่อ เมสเซ่ เอจี ก่อตั้งครบ 70 ปีในปี 2560 ที่ผ่านมา โดยจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2490 ด้วยการจัดงานมหกรรมสินค้าส่งออกครั้งแรกในเยอรมนี และ 7 ทศวรรษหลังจากนั้น ดอชเช่อ เมสเซ่ เอจี ได้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผู้จัดงานแสดงสินค้าระดับชั้นนำของโลก ด้วยการจัดงานอีเวนต์มากมายทั้งในเยอรมนีและทั่วโลก ดอชเช่อ เมสเซ่ เอจี มีรายได้ 302 ล้านยูโรในปี 2559 ติด 1 ใน 5 บริษัทจัดแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี และดำเนินธุรกิจในราว 100 ประเทศทั่วโลก ด้วยพนักงานมากกว่า 1,200 คนและเครือข่ายพันธมิตรการค้า 58 ราย