กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 04 กรกฎาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,251.40-1,261.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,860 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,740 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.20 น. ของวันที่ 04/07/61)
แนวโน้มวันที่ 05 กรกฎาคม 2561
นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า ธนาคารกลางจีนกำลังจับตาการแกว่งตัวขึ้นลงในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิด และจะดำเนินการรักษาหยวนให้อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพและสมเหตุสมผล เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะรักษาหยวนให้มีเสถียรภาพ นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการด้านเสถียรภาพและการพัฒนาการเงิน(FSDC)ของจีน ต่างแสดงความเชื่อมั่นว่าจีนจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงสำคัญและความเสี่ยงภายนอกได้ ท่ามกลางความผันผวนทางการเงินในประเทศและความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐ การส่งสัญญาณดังกล่าวของจีน หนุนหยวนแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก โดยมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย. หลังจากลงทดสอบจุดต่ำสุดรอบใน 11 เดือน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้นหลังจากที่รัฐบาลผสมของเยอรมนีสามารถคลี่คลายความขัดแย้งเกี่ยวกับผู้อพยพที่สร้างความเสี่ยงต่อการทำให้รัฐบาลของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวว่า BoE อาจสร้างความประหลาดใจด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ซึ่งสร้างแรงหนุนให้กับปอนด์ ซึ่งการกลับมาแข็งค่าของทั้ง 3 สกุลเงิน สร้างแรงกดดันต่อดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ซึ่งดันให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดรอบเกือบ 7 เดือน อย่างไรก็ตามราคาทองคำถูกกดดันจากกองทุน SPDR Gold Trust GLD ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ลดการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่อง โดยวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา SPDR ลดการถือครองทองคำลงสูงถึง 15.615 ตัน เหลือการถือครองทองคำเพียง 803.421 ตัน นอกจากนี้ นักลงทุนรอรายงานการประชุมเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในคืนวันพฤหัสบดี เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับทิศทางของการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ เพื่อยืนยันว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นอีก 2 ครั้งในปีนี้หรือไม่ ในระยะสั้นราคาทองคำพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,261-1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้น ขณะที่แนวรับแรกประเมินว่าอยู่ในบริเวณโซน 1,246-1,241 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย แนะนำให้รอการตั้งฐานของราคาทองคำ แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำให้รอจังหวะซื้อหากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,246-1,241 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน เมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,261 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านได้ให้รอขายทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากราคาที่เหวี่ยงตัวจะทำให้นักลงทุนที่ลงทุนมากเกินไปหรือไม่มีแผนในการลงทุนที่ชัดเจนจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,241 (19,400บาท) 1,237 (19,350บาท) 1,222 (19,100บาท)
แนวต้าน 1,261 (19,750บาท) 1,272 (19,950บาท) 1,283 (20,100บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,241 (19,610บาท) 1,237 (19,550บาท) 1,222 (19,310บาท)
แนวต้าน 1,261 (19,930บาท) 1,272 (20,110บาท) 1,283 (20,280บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999