กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 05 กรกฎาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,252.60-1,258.14 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,870 บาท โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,870 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.32 น. ของวันที่ 05/07/61)
แนวโน้มวันที่ 06 กรกฎาคม 2561
สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเริ่มขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ โดยสหรัฐเปิดเผยว่า จะบังคับใช้ภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันที่ 6 ก.ค. และจีนยืนยันที่จะตอบโต้ในลักษณะเดียวกันในวันเดียวกัน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ภาษีของสหรัฐจะกระทบห่วงโซ่อุปทานโลก ซึ่งรวมถึง บริษัทต่างชาติในประเทศจีน พร้อมย้ำว่า จีนไม่ต้องการต่อสู้ในสงครามการค้าที่เริ่มต้นขึ้นโดยสหรัฐ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังของจีนเปิดเผยว่า จีนจะ"ไม่เป็นผู้เริ่มยิงนัดแรกอย่างแน่นอน"ในสงครามการค้ากับสหรัฐ และจะไม่เป็นฝ่ายแรกที่เก็บภาษี นักลงทุนจับตาผลกระทบจากประเด็นดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาทองคำในระยะถัดไป อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้รับแรงหนุน จากแนวโน้มปัญหารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2559 ทั้งนี้ รายงานคณะกรรมาธิการฝ่ายข่าวกรองแห่งวุฒิสภาสหรัฐ มีมติให้การสนับสนุนรายงาน Intelligence Community Assessment ขึ้นโดยสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (NSA) และสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) โดยรายงานดังกล่าวมีเนื้อหาว่า รัสเซียมีส่วนช่วยให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง และมีส่วนทำให้ นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงจากพรรคเดโมแครต ต้องเสียชื่อเสียง ประเด็นดังกล่าว ลดเสถียรภาพทางการเมืองของสหรัฐ และหากประเด็นดังกล่าวถูกขุดคุ้ยมากขึ้นอาจจะสร้างความยุ่งเหยิงทางการเมืองแก่ปธน.ทรัมป์ก่อนถึงการเลือกตั้งกลางเทอมปธน.ทรัมป์ ในเดือนพ.ย. ส่งผลให้นักลงทุนติดตามการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียและปธน.ทรัมป์ ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ในวันที่ 16 ก.ค.นี้ ทำให้วายแอลจีเชื่อว่า ราคาทองคำในช่วงนี้ยังคงมีการแกว่งตัว หากนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจชะลอการลงทุนออกไปก่อน เนื่องจากทิศทางราคาทองคำไม่ชัดเจนทำให้การลงทุนในช่วงนี้มีความเสี่ยงที่ต้องแบกรับสูงขึ้น แต่หากราคาทองคำอ่อนตัวลงมาในโซน 1,248-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์อาจทยอยเข้าซื้อบางส่วนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีการแกว่งตัวในกรอบ ซึ่งกรอบราคาด้านบนประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และโซนถัดไปที่ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระยะสั้นความผันผวนของราคาและการแกว่งตัวของราคาอาจลดลงจากช่วงที่ผ่านมา โดยให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,248 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,248 (19,600บาท) 1,237 (19,400บาท) 1,222 (19,150บาท)
แนวต้าน 1,266 (19,900บาท) 1,272 (20,000บาท) 1,283 (20,150บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,248 (19,770บาท) 1,237 (19,590บาท) 1,222 (19,360บาท)
แนวต้าน 1,266 (20,060บาท) 1,272 (20,150บาท) 1,283 (20,320บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999