กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,241.20-1,246.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,760 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.55 น. ของวันที่12/07/61)
แนวโน้มวันที่ 13 กรกฎาคม 2561
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนและสหรัฐส่งสัญญาณความเป็นไปได้ในการกลับเข้าสู่การเจรจาประเด็นการค้าระหว่าง 2 ประเทศ หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มความกดดันด้วยการประกาศขู่เก็บภาษีครั้งใหญ่รอบใหม่ ขณะที่ เควิน เบรดี สมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐเท็กซัส ออกมาเรียกร้องให้ปธน.ทรัมป์ หันหน้าเจรจากับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อยุติสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ อย่างไรก็ตามยังคงมีความสับสนจากกระแสข่าวดังกล่าว เมื่อกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า จีนไม่ได้ติดต่อกับสหรัฐเกี่ยวกับการเริ่มเจรจาการค้าอีกครั้ง และระบุว่า ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการบังคับให้ถ่ายโอนเทคโนโลยีและการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ความกังวลเรื่องความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ยังคงหนุนดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวใกล้จุดสูงสุดรอบ 1 สัปดาห์ จนส่งผลให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นได้อย่างจำกัด นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น จากการรายงานดัชนีผู้ผลิต ( PPI ) ของสหรัฐปรับดีขึ้นมากสะท้อนสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้น แนวโน้มเงินเฟ้อสูงขึ้น ทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 2 ครั้งได้ จนกดดันราคาทองคำ ประกอบกับ สกุลเงินยูโรเคลื่อนไหวในกรอบ หลังจากแหล่งข่าวหลายแห่งรายงานว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีความคิดเห็นไม่ตรงกันว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อไรในปีหน้า โดยเจ้าหน้าที่บางท่านระบุถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ค.2019 เป็นอย่างเร็ว ขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆปฏิเสธการดำเนินการดังกล่าวจนถึงฤดูใบไม้ร่วง ทั้งนี้ ทองคำเคลื่อนไหวผันผวนลดลง หลังตลาดผ่อนคลายลงเพราะรับข่าวไปบ้างแล้ว ขณะที่ราคาทองคำในประเทศได้แรงหนุนเพิ่ม จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง เป็นปัจจัยพยุงราคาทองคำในประเทศไว้ ทั้งนี้หากระยะสั้นไม่มีปัจจัยกดดันราคาทองคำเพิ่มเติม การอ่อนตัวลงของราคาทองคำคงไม่มากนัก และหากราคาทองคำไม่หลุด 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้น โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มีมุมมองว่า มีลักษณะการดีดตัวของราคาทองคำ หลังจากราคาอ่อนตัวลงในช่วงที่ผ่านมา โดยประเมินโซนแนวต้านที่ 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งหากยังไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้มีโอกาสอ่อนตัวลง ทั้งนี้หากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ น่าจะเห็นการปรับขึ้นต่อโดนประเมินแนวต้านถัดไป ในระยะสั้นนี้ต้องยอมรับว่าราคาทองคำเมื่อปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายสลับออกมา และนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งหากหลุดบริเวณดังกล่าวจำเป็นต้องตัดขาดทุน สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นหรือบริเวณแนวต้าน 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,237 (19,450บาท) 1,222 (19,200บาท) 1,213 (19,050บาท)
แนวต้าน 1,252 (19,700บาท) 1,261 (19,850บาท) 1,272 (20,050บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,237 (19,620บาท) 1,222 (19,380บาท) 1,213 (19,240บาท)
แนวต้าน 1,252 (19,860บาท) 1,261 (20,000บาท) 1,272 (20,180บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999