กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ผนึกกำลังร่วมกับ JILC ลงนามความร่วมมือ ส่งเสริมการลงทุนผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่น เพื่อผลักดันให้นักลงทุนของทั้ง 2 ประเทศ มีการลงทุนระหว่างกันได้ดียิ่งขึ้น โดยความร่วมมือที่สำคัญ อาทิ การสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม โดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการลงทุนทั้งประเทศไทย-ญี่ปุ่น หวังเกิดการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน โดยคาดว่าในเดือนสิงหาคมนี้ จะมีการนำคณะนักลงทุนญี่ปุ่นร่วมเข้าเยี่ยมชมกลุ่มพื้นที่ดังกล่าว พร้อมเชิญชวนให้เกิดการลงทุนต่อไป
ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากที่รัฐบาลได้วางเป้าหมาย ในการส่งเสริมการลงทุนและขยายการตลาดของไทยให้ก้าวสู่การเป็นรากฐานการผลิตระดับโลก การนิคมอุตสาหกรรมจึงได้ร่วมมือกับ Japan Industrial Location Center: JILC ส่งเสริมด้านการลงทุนภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น หรือ METI ลงนามบันทึกความร่วมมือที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านส่งเสริมการลงทุนและการตลาดเป็นความต้องการของผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่จะมาลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษตะวันออก (EEC) และ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) รวมถึงข้อมูลสิทธิประโยชน์ทั้งการนิคมอุตสาหกรรม และ JILC จะร่วมกันสนับสนุนการอำนวยความสะดวกต่อการลงทุนและดำเนินธุรกิจเพื่อเป็นการเปิดประตูการค้า การลงทุน ทั้งสองประเทศ
ดร.อุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความร่วมมือที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นระหว่างไทยและญี่ปุ่นในครั้งนี้ ประกอบด้วย
- การแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ประกอบการที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากการส่งเสริมการลงทุนของทางรัฐบาล และมาตรการส่งเสริมการขายในการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม
- การสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่จัดไว้เพื่อรองรับการลงทุนของทั้ง 2 ประเทศ
- การเชื่อมโยงกับนโยบายเศรษฐกิจ Connected Industries และ Thailand 4.0 ระหว่างไทยและญี่ปุ่น เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ตั้งแต่ในด้าน ห่วงโซ่การผลิตการบริการ ฐานข้อมูล องค์ความรู้ ฯลฯ ที่จะมีความเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้น
- การส่งเสริมการลงทุนในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะนิคมฯ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซีทั้ง 27 แห่ง พร้อมทั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอีก 3 แห่ง เพื่อให้สามารถขยายการค้า การลงทุน ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา มาเลเซีย เป็นต้น
อย่างไรก็ดี นักลงทุนญี่ปุ่น ถือเป็นนักลงทุนต่างประเทศที่มีการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเป็นอันดับหนึ่ง และเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการลงทุนในประเทศไทยในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมระยะที่ 3 และการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม Smart Park โดยยังถือเป็นกลุ่มนักลงทุนที่มีศักยภาพด้านการพัฒนาเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายผลักดันให้ SMEs ขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่ต้องการชักจูงการลงทุนมายังประเทศไทย โดยภายหลังการลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้งสองประเทศจะร่วมกันนำคณะนักลงทุนและผู้ประกอบการ SMEs ของประเทศญี่ปุ่นเยี่ยมชมพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษตะวันออก (EEC) และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) ในเดือนสิงหาคมนี้เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่จะมาลงทุนนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการบุกตลาดต่างประเทศร่วมกันในครั้งนี้อีกด้วย
นอกจากนี้ กนอ. ยังเตรียมความพร้อมพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพให้เพียงพอต่อความต้องการของนักลงทุนในพื้นที่อีอีซีและ SEZ เพื่อรองรับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวกว่า 24,181 ไร่ อีกทั้งส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อมในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และการให้บริการด้านสาธาณูปโภคและสาธาณูปการแก่โรงงานอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ ดร.อุตตม กล่าวสรุป
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองประชาสัมพันธ์ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถนนนิคมมักกะสัน กรุงเทพฯ โทร. 02 2530561 หรืออีเมลinvestment.1@ieat.mail.go.th