กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี
อาจารย์ มทร.ธัญบุรี สุดเจ๋ง!!! เปลี่ยนขยะพลาสติกและน้ำมันเครื่องที่ใช้งานแล้ว เป็นน้ำมันดีเซล
รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า อาจารย์ มทร.ธัญบุรี ได้สร้าง 'เครื่องต้นแบบกระบวนการไพโรไลซิส' สำเร็จ เปลี่ยนขยะพลาสติกและน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ระบุคุณภาพน้ำมันเทียบเท่าน้ำมันดีเซล โดยไม่ต้องอาศัยการกลั่น สมบัติผ่านมาตรฐานตามที่กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงานได้ประกาศไว้ ซึ่งงานวิจัยนี้เป็นความสำเร็จที่ขยายผลการทดลองจากในระดับห้องปฏิบัติการ มาสู่ระดับโรงงานต้นแบบ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อลดปริมาณขยะและยังได้น้ำมันเชื้อเพลิงที่คุณภาพเทียบเท่าน้ำมันดีเซลโดยไม่ต้องอาศัยการกลั่นเพิ่มเติม และอยู่ระหว่างยื่นขอความความคุ้มครองด้านทรัพย์สินทางปัญญา
ด้าน ผศ.ณัฐชา เพ็ชร์ยิ้ม อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมเคมีและวัสดุ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี เจ้าของผลงานเปิดเผยว่าปัจจุบันประเทศไทยมีขยะประเภทพลาสติกประมาณ 2 ล้านตันต่อปี และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่มีการนำขยะพลาสติกไปใช้ประโยชน์โดยเฉลี่ยปีละประมาณ 0.5 ล้านตัน ส่วนที่เหลืออีก 1.5 ล้านตันยังเป็นปัญหาที่ยากต่อการกำจัด เนื่องจากไม่สามารถใช้วิธีการฝังกลบเพราะสลายตัวช้ามาก หากนำไปเผาก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่น้ำมันเครื่องที่ใช้งานแล้วจากยานยนต์ก็เป็นปัญหาเช่นกัน เห็นได้จากจำนวนยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นทุกปี และมีเพียงแค่ 20 - 30 เปอร์เซ็นที่ถูกกำจัดอย่างถูกวิธีจึงได้ทำการวิจัยและพัฒนาเครื่องต้นแบบกระบวนการไพโรไลซิสร่วมระหว่างน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วกับขยะพลาสติกผสม เพื่อผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงเทียบเท่าดีเซล
ผศ.ณัฐชา กล่าวว่า ผลงานวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และบริษัท วิสดอม อินเวนเตอร์ จำกัด ซึ่งโดยทั่วไปกระบวนการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันไพโรไลซิสจะมีคุณภาพต่ำ ไม่ผ่านมาตรฐาน จำเป็นต้องผ่านกระบวนการกลั่นอีกครั้งจึงจะได้น้ำมันดีเซลออกมา ซึ่งมีผลมาจากการนำขยะพลาสติกหลายชนิดมาผ่านกระบวนการให้ความร้อนสูงภายใต้บรรยากาศไร้ออกซิเจน และจากการศึกษาวิจัยพบว่าสัดส่วนของชนิดพลาสติกเริ่มต้นร่วมกับน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว ส่งผลต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์น้ำมันจากกระบวนการไพโรไลซิสเป็นอย่างมาก อีกทั้งการใช้น้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วมาเป็นวัตถุดิบร่วมส่งผลให้เพิ่มการถ่ายเทความร้อนและลดความหนืดของสารภายในเครื่อง จึงเกิดการหลอมเหลวเร็วขึ้นและลดพลังงานที่ใช้ในการกวนผสม
เจ้าของผลงาน กล่าวอีกว่า จุดเด่นของผลงานนี้คือการออกแบบเครื่องปฏิกรณ์ให้สามารถป้อนน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วกับขยะพลาสติก ทั้งฝาขวดพลาสติก (HDPE) และสายรัดพลาสติกชนิดแข็ง (PP) ผสมในสัดส่วนที่ 50:30:20 ร้อยละโดยน้ำหนัก เพื่อผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพเทียบเท่าน้ำมันดีเซล โดยไม่ต้องอาศัยการกลั่น ช่วยในการปรับปรุงคุณภาพ และเมื่อนำน้ำมันที่ได้ไปทดสอบตามมาตรฐาน ASTM พบว่ามีดัชนีซีเทน 67 ความถ่วงจำเพาะ 0.82 จุดวาบไฟ 58 องศาเซลเซียส ค่าการกลั่นที่ร้อยละ 90อุณหภูมิ 350 องศาเซลเซียส ซึ่งผ่านมาตรฐานน้ำมันดีเซลตามที่กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงานได้ประกาศไว้
อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวด้วยว่างานวิจัย นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์หลายผลงานของ มทร.ธัญบุรี ตอบโจทย์ในด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นหนึ่งในนโยบายของการพัฒนาและขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย สู่มหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) โดยได้เริ่มต้นดำเนินการภายในมหาวิทยาลัยแล้วหลายส่วน และขยายพื้นที่ไปยังรอบ ๆ มหาวิทยาลัย รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันยังมุ่งเน้นให้อาจารย์ร่วมทำวิจัยแบบบูรณาการ เชื่อมโยงข้ามศาสตร์ให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ เพื่อนำไปขยายผลต่อการพัฒนาชุมชนสังคมและประเทศต่อไป และ มทร.ธัญบุรี พร้อมที่จะให้การสนับสนุนภาครัฐในการร่วมแก้ปัญหาขยะต่อไป.