กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เตือนผู้ปกครองเพิ่มความระมัดระวังใส่ใจการเล่นลูกโป่งของบุตรหลานมากขึ้น สอนวิธีเป่าลูกโป่งที่ถูกต้องแก่เด็ก โดยกางนิ้วที่เหลือบังหน้าและนัยน์ตา เพื่อป้องกันลูกโป่งแตก ทำให้เกิดอันตรายต่อนัยน์ตา ไม่ควรปล่อยเด็กเล่นลูกโป่งตามลำพัง
หากลูกโป่งแตกควรรีบนำเศษลูกโป่งไปทิ้ง ห้ามมิให้เด็กนำเศษลูกโป่งมากัดหรืออมเล่น อาจหลุดเข้าคอ ทำให้หายใจไม่ออกก่อให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ลูกโป่งเป็นของเล่นที่มีสีสันสวยงาม ซึ่งหาซื้อได้ง่ายและเป็นของเล่นที่เด็กๆ ชื่นชอบ แต่การเล่นอย่างไม่ระมัดระวัง อาจก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ซึ่งอันตรายจากลูกโป่ง นอกจากอาจเกิดการระเบิดจนทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บแล้ว ลูกโป่งอาจทำให้เด็กหายใจ ไม่ออกและเสียชีวิตได้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอเตือนผู้ปกครองให้เพิ่มความระมัดระวังใน การเล่นลูกโป่งของเด็ก ไม่ควรให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 8 ปี เล่นลูกโป่งที่ยังไม่เป่า และควรสอนให้เด็กเป่าลูกโป่งอย่าง ถูกวิธีโดยกางนิ้วที่เหลือออกบังหน้าและนัยน์ตา เพื่อป้องกันลูกโป่งแตกทำให้เกิดอันตรายต่อนัยน์ตา ควบคุมดูแล การเล่นลูกโป่งของเด็กอย่างใกล้ชิด หากลูกโป่งแตกแล้วให้รีบนำเศษลูกโป่งไปทิ้งในถังขยะทันที อย่าปล่อยให้เด็กเล่น เศษลูกโป่ง เพราะเด็กอาจนำเศษลูกโป่งที่แตกแล้วมาอมหรือกัดเล่น ทำให้เศษลูกโป่งลื่นตกเข้าไปในลำคอ
จนขวางทางเดินหายใจ ทำให้หายใจไม่ออกและเสียชีวิตได้ในที่สุด กรณีที่ใช้ลูกโป่งประดับตกแต่งสถานที่ ควรแขวนหรือผูกไว้ในที่สูง ให้พ้นจากระดับการเอื้อมถึงของมือเด็ก โดยเฉพาะลูกโป่งอัดก๊าชไฮโดรเจน ห้ามนำไปแขวนไว้ใกล้กับหลอดไฟหรือแหล่งความร้อน เพราะประกายไฟและความร้อนจะทำให้แก๊สในลูกโป่งระเบิด นอกจากจะก่อให้ เกิดอันตรายกับผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงแล้ว อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนได้ ที่สำคัญผู้ปกครองไม่ควรมองข้ามอันตรายจากลูกโป่ง แม้ว่าลูกโป่งจะเป็นของเล่นที่เด็กๆ ชื่นชอบด้วย เพราะมีสีสันที่สวยสดงดงาม อาจก่อให้ เกิดอันตรายขึ้นได้ หากเล่นอย่างไม่ระมัดระวัง อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงขั้นทำให้เด็กเสียชีวิตได้