กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,217.30-1,228.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,420 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,450 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.03 น. ของวันที่19/07/61)
แนวโน้มวันที่ 20 กรกฎาคม 2561
ประเด็นสงครามการค้ายังคงร้อนแรง เมื่อสหรัฐยื่นร้องเรียนข้อพิพาท 5 กรณีต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อคัดค้านภาษีตอบโต้จากประเทศต่างๆ ซึ่งรวมถึงจีน เพื่อตอบโต้ต่อมาตรการภาษีตามกฎหมายมาตรา 232 ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ ประกาศใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อชดเชยสำหรับความสูญเสียที่เกิดจากกฎหมายภาษีมาตรา 232 ของสหรัฐ ต่อเหล็กกล้าและอะลูมิเนียม เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตน ทางด้านนายแลร์รี คัดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระดับสูงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเรื่องการถ่วงและสกัดความคืบหน้าต่อการทำข้อตกลงเพื่อยุติการตอบโต้ด้านภาษีระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่อุปสงค์ทองคำในจีนซึ่งเป็นประเทศผู้อุปโภคทองคำอันดับหนึ่งของโลกยังคงอยู่ในระดับอ่อนแอ ในขณะที่ความขัดแย้งทางการค้าต่อเนื่องกับสหรัฐทำให้หยวนอ่อนลง โดยหยวนในการซื้อขายที่ตลาดออฟชอร์แตะระดับต่ำสุดรอบเกือบ 1 ปี ปัจจัยดังกล่าวกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง นอกจากนี้สหภาพยุโรป(EU) จะพิจารณาการเก็บภาษีต่อถ่านหิน, ผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม และเคมีภัณฑ์จากสหรัฐ ถ้าปธน.ทรัมป์บังคับใช้ข้อจำกัดต่างๆต่อรถยนต์ยุโรป ทั้งนี้นายยุงค์เกอร์มีกำหนดประชุมกับปธน.ทรัมป์ในวันที่ 25 ก.ค. เพื่อหารือความสัมพันธ์การค้าที่ตึงเครียดระหว่าง EU และสหรัฐ ขณะที่กลุ่มพันธมิตรผู้ผลิตยานยนต์ Alliance of Automobile Manufacturers ของสหรัฐ ซึ่งมีบริษัท General Motors Co, Volkswagen AG และ Toyota Motor Corp เป็นสมาชิก ระบุว่า ทางกลุ่มวางแผนจะออกคำเตือนระหว่างการทำประชาพิจารณ์ ซึ่งประเมินว่าการเก็บภาษี 25% ต่อรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้า จะทำให้ราคารถยนต์ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปีและจะกระทบต่องานหลายแสนตำแหน่ง ดังนั้นหากราคายังไม่สามารถดีดตัวกลับไปทดสอบหรือยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,227-1,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดแรงขายจะกดดันให้ราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ราคาอาจอ่อนตัวลงมาอีกครั้ง แต่หากสามารถยืนเหนือแนวต้านได้ราคาก็พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามแนะนำจับตาการสร้างฐานของราคาบริเวณ 1,212 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือว่าเป็นแนวรับสำคัญ หากยืนได้มั่นคงแนะนำเข้าซื้อ แต่หากราคาหลุดควรตัดขาดทุน เพราะราคาทองคำอาจจะมีการปรับฐานต่อ โดยประเมินแนวรับถัดไปบริเวณ 1,205-1,193 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,212 (19,150บาท) 1,205 (19,050บาท) 1,193 (18,850บาท)
แนวต้าน 1,227 (19,400บาท) 1,234 (19,550บาท) 1,241 (19,650บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,212 (19,310บาท) 1,205 (19,200บาท) 1,193 (19,010บาท)
แนวต้าน 1,227 (19,560บาท) 1,234 (19,670บาท) 1,241 (19,780บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999