กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าตามที่กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอราคาซื้อข้าวขาว 5 % นาปรัง ปีการผลิต 2549 จำนวน 409,989.53 ตัน และนาปี ปีการผลิต 2549/50 จำนวน 101,740.79 ตัน เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ปรากฏว่า มีผู้สนใจยื่นเสนอราคาซื้อข้าว จำนวนทั้งสิ้น 24 ราย
คณะทำงานพิจารณาจำหน่ายข้าวสารได้เจรจาต่อรองราคาและพิจารณาราคาซื้อขายที่เหมาะสมเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ) ซึ่งได้เห็นชอบให้จำหน่ายข้าวตามที่ได้มีผู้เสนอราคาดังกล่าวแล้ว ดังนี้
1. ข้าวขาว 5% ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2549 เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ปริมาณรวม 409,989.53 ตัน ราคาระหว่างตันละ 10,150 — 10,720 บาท ให้กับผู้ส่งออกจำนวน 9 ราย ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาสูงสุด ดังนี้
ผู้เสนอราคา ปริมาณ (ตัน)
1. บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด 65,525.56
2. บริษัท แคปปิตัลซีเรียล จำกัด 215,737.30
3. บริษัท ไทยฟ้า (2511) จำกัด 14,025.43
4. บริษัท อิสเทิร์นไรซ์ จำกัด 21,827.49
5. บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด 12,094.05
6. บริษัท แสงทองค้าข้าว (1968) จำกัด 4,248.84
7. บริษัท เอเซียโกลเด้นไรซ์ จำกัด 51,204.02
8. บริษัท สิงห์โตทองไรซ์คอปอเรชั่น จำกัด 20,035.97
9. บริษัท ไชยพรไรซ์แอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด 5,290.87
รวม 409,989.53
2. ข้าวขาว 5% ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2549/50 เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ ปริมาณรวม 101,740.79 ตัน ราคาระหว่างตันละ 10,550 — 10,660 บาท ให้กับผู้ส่งออกจำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาสูงสุด ดังนี้
ผู้เสนอราคา ปริมาณ(ตัน )
1. บริษัท อิสเทิร์นไรซ์ จำกัด 7,375.60
2. บริษัท ไชยพรไรซ์แอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด 91,418.31
3. บริษัท สามเกษตรมิลล์ จำกัด 2,946.88
รวม 101,740.79
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การจำหน่ายข้าวในสต็อกของรัฐบาลครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงภาวะความต้องการข้าวเพื่อการส่งออก ซึ่งมีปริมาณสูงเนื่องจากผู้ส่งออกมีคำสั่งซื้อจากผู้นำเข้าต่างประเทศ จึงทำให้เกิดผลดีหลายประการ คือ
1. สามารถจำหน่ายข้าวในราคาสูงเหมาะสมกับภาวะตลาดและเป็นการระบายให้กับผู้เสนอซื้อหลายราย ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาวะการตึงตัวของปริมาณความต้องการข้าวในตลาดระหว่างช่วงต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวและมีปริมาณข้าวออกสู่ตลาดไม่มาก
2. รัฐบาลสามารถลดปริมาณข้าวในสต็อกได้กว่า 5 แสนตัน ซึ่งสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาได้ประมาณเดือนละ 14.5 ล้านบาท หรือประมาณปีละ 174 ล้านบาท
3. สามารถต่อรองราคาเพิ่มขึ้นจากราคาที่เสนอซื้อครั้งแรกมีมูลค่าถึง 145.45 ล้านบาท และการจำหน่ายครั้งนี้รัฐบาลมีรายได้เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5,334.61 ล้านบาท การส่งออกข้าวตั้งแต่ ม.ค.- 11 ธ.ค. 50 มีปริมาณ 8.74 ล้านตัน มูลค่า 113,147 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา คือ ต.ค. และ พ.ย. 50 สามารถส่งออกได้ถึง 1.10 และ 1.14 ล้านตันตามลำดับ ซึ่งหากในช่วงเดือน ธ.ค. 50 สามารถส่งออกได้ในระดับเดียวกับ 2 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าการส่งออกข้าวในปี 2550 จะสูงถึงประมาณ 9.2 — 9.4 ล้านตัน