กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,215.51-1,224.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,400 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,500 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,410 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.45 น. ของวันที่ 20/07/61)
แนวโน้มวันที่ 23 กรกฎาคม 2561
แม้ว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยแสงความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐ แต่ในช่วงต่อมาทำเนียบขาวได้แถลงการณ์ว่า ปธน.ทรัมป์เคารพความเป็นอิสระของเฟดและไม่ได้แทรกแซงการตัดสินใจด้านโยบายของเฟด ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนลงเล็กน้อยแต่ยังคงสามารถเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 95 ได้ แม้ว่าราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนจากประเด็นดังกล่าว แต่ก็ยังขยับขึ้นไปได้ไม่ไกลมากนัก ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและ EU เพิ่มมากขึ้น หลังปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐวิจารณ์สหภาพยุโรป (EU) กรณีที่เจ้าหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบต่อต้านการผูกขาดของ EU เรียกเก็บค่าปรับสูงเป็นประวัติการณ์ 5 พันล้านดอลลาร์ต่อบริษัทกูเกิล โดยระบุว่า EU เอาเปรียบสหรัฐ ประเด็นดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินยูโรและราคาทองคำ นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางสกุลเงินหยวนร่วงลงรายวันสำหรับการซื้อขายในตลาดออนชอร์ต่ำลงเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน ส่งผลให้หยวนในตลาดออฟชอร์ร่วงลงกว่า 0.50% สู่ระดับ 6.8358 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 2560 ซึ่งเพิ่มแรงกดดันเข้าสู่ตลาดทองคำ อย่างไรก็ตาม สภาทองคำโลก (WGC) คาดว่าอุปสงค์สำหรับทองคำจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 โดย WGC คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะปรับขึ้นและทองคำมีประวัติที่จะถูกใช้ในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ สำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่า หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,226-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ อาจทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,211-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้น เข้าซื้อขายในลักษณะการเก็งกำไร
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอการตั้งฐานของราคาจึงเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไม่หลุดแนวรับโซน 1,211-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวเพื่อสะสมกำลัง โดยหากมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,226-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,209 (19,100บาท) 1,200 (19,950บาท) 1,193 (18,850บาท)
แนวต้าน 1,226 (19,400บาท) 1,237 (19,550บาท) 1,246 (19,700บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,209 (19,270บาท) 1,200 (19,130บาท) 1,193 (19,010บาท)
แนวต้าน 1,226 (19,550บาท) 1,237 (19,720บาท) 1,246 (19,860บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999