ก.ล.ต. ขอให้ผู้ลงทุนติดตามข้อมูลและมูลค่าของ ปตท. หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ ปตท.แยกทรัพย์สินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโอนคืนให้รัฐ โดย ปตท. ยังคงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ข่าวทั่วไป Friday December 14, 2007 16:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--ก.ล.ต.
วันนี้ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (“ปตท.”) แยกทรัพย์สินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโอนคืนให้รัฐ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหยุดการซื้อขายหุ้น ปตท. เป็นการชั่วคราว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปิดให้มีการซื้อขายหลักทรัพย์อีกครั้ง เมื่อ ปตท. ชี้แจงข้อมูล รวมทั้งแจ้งถึงผลกระทบและขั้นตอนการดำเนินการของบริษัทอย่างชัดเจน เพียงพอ มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ และข้อมูลดังกล่าวได้รับการเผยแพร่แก่ผู้ลงทุนในวงกว้างแล้ว เพื่อให้ผู้ลงทุนได้มีเวลารับทราบข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลและสถานการณ์ รวมทั้งผลกระทบต่างๆ
ก.ล.ต. ขอชี้แจงว่า คำพิพากษาดังกล่าวมิได้มีผลกระทบต่อสถานการณ์เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ ปตท. แต่อย่างใด อย่างไรก็ดี การที่ปตท. แยกทรัพย์สินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโอนคืนให้รัฐ อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของ ปตท. ขณะนี้ปตท. อยู่ระหว่างพิจารณาผลกระทบดังกล่าว และจะได้ชี้แจงให้ทราบต่อไป
สำหรับกรณีกองทุนรวม ผู้ลงทุนยังคงซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมได้ตามปกติ อย่างไรก็ดี เนื่องจากกรณีดังกล่าวมีผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นของ ปตท. และตลาดหลักทรัพย์ฯ หยุดการซื้อขายหุ้น ปตท. เป็นการชั่วคราว ซึ่งอาจมีผลกระทบทำให้ไม่สามารถคำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ มูลค่าหน่วยลงทุน ราคาขายและราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่มีการลงทุนในหุ้น ปตท. ได้
ก.ล.ต. จะได้ติดตามความคืบหน้าและชี้แจงให้ผู้ลงทุนทราบต่อไป ก.ล.ต. จึงขอให้ผู้ลงทุนติดตามคำชี้แจงของปตท. บทวิเคราะห์หุ้น ปตท. จากบริษัทหลักทรัพย์ และการประกาศเปิดให้มีการซื้อขายหุ้น ปตท. อีกครั้งของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ก่อนตัดสินใจในการลงทุน ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อกับ ก.ล.ต. ได้ที่ศูนย์ Hot Line โทร. 0-2695-9696 หรือที่โทร. 0-2695-9999 กด 9

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ