กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--บีโอไอ
บีโอไอเผยผลสำเร็จนำเอสเอ็มอีกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย ร่วมงานแสดงเทคโนโลยีชิ้นส่วนและวัสดุอุตสาหกรรมระดับนานาชาติใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ชี้จับมือศูนย์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งมหานครโตเกียว จับคู่เอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่น กว่า 234 คู่ ยันผู้ประกอบการญี่ปุ่นเล็งลงทุนเพิ่มในไทย อาทิ ผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และผู้ประกอบการโลจิสติกส์ มั่นใจสนับสนุนนโยบายดึงการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล
นางสาวกรองกนก มานะกิจจงกล ผู้อำนวยการกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆนี้ บีโอไอได้นำคณะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) รวม 30 บริษัท ประกอบด้วย ผู้ผลิตชิ้นส่วนโลหะ ผู้ผลิตชิ้นส่วนยาง และผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมของไทย เดินทางไปกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมกิจกรรมหารือและจับคู่ธุรกิจระหว่างเอสเอ็มอีไทยกับเอสเอ็มอีญี่ปุ่น และเปิดบูธแสดงศักยภาพการผลิตชิ้นส่วนของผู้ผลิตไทย ภายในงานเอ็มเทค โตเกียว 2018 (M-Tech Tokyo 2018) ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีชิ้นส่วน และวัสดุอุตสาหกรรมระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น แต่ละปีมีผู้เข้าร่วมชมงานไม่น้อยกว่า 80,000 คน
ทั้งนี้กิจกรรมเจรจาธุรกิจ และเปิดบูธได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ และเอสเอ็มอีญี่ปุ่นที่เข้าร่วมชมงาน โดยมีการเจรจาธุรกิจระหว่างเอสเอ็มอีของ 2 ประเทศ รวมกว่า 234 คู่ และมี 24 บริษัทไทย ที่ได้รับการติดต่อซื้อขายชิ้นส่วนกับบริษัทญี่ปุ่นภายหลังงาน
ขณะเดียวกันมีผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีญี่ปุ่นจำนวนมาก สนใจสอบถามถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการขยายการผลิตในประเทศไทย อาทิ ผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต้องการหาบริษัทขึ้นรูปผลิตภัณฑ์เพื่อทำข้อต่อในร่างกาย ผู้ประกอบการธุรกิจโลจิสติกส์ต้องการเข้ามาตั้งกิจการ ในประเทศ ผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมสนใจเข้ามาลงทุนผลิตวาล์วในประเทศไทย เป็นต้น
"งานเอ็มเทค เป็นงานใหญ่ประจำปีของญี่ปุ่น ภายในงานประกอบด้วยส่วนการจัดแสดงเทคโนโลยีชิ้นส่วนและวัสดุอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ อาทิ เครื่องมือแพทย์ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ซอฟต์แวร์ที่ใช้กับเครื่องกล รวมถึงการออกแบบทางวิศวกรรม ซึ่งล้วนเป็นกิจการเป้าหมายที่บีโอไอต้องการดึงเข้ามาลงทุนในไทย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำคัญของเอสเอ็มอีไทยที่จะได้แสดงศักยภาพการผลิต เพื่อหาพันธมิตร และเกิดการเชื่อมโยงซื้อขายชิ้นส่วนร่วมกันต่อไป โดยเฉพาะครั้งนี้ บีโอไอได้ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งมหานครโตเกียว จัดเวทีให้เอสเอ็มอีของ 2 ประเทศได้พบหารือกันโดยตรง ซึ่งจะก่อให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันต่อไป และจากผลสำเร็จในการเจรจาจับคู่ธุรกิจครั้งนี้ บีโอไอวางแผนที่จะจัดกิจกรรมในรูปแบบเดียวกันอีกในปีถัดไป โดยตั้งเป้าหมายจะเชิญชวนผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ เข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น" นางสาวกรองกนก กล่าว
นางสาวกรองกนก กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะเอสเอ็มอีของไทยยังได้เดินทางไปเข้าเยี่ยมชม และรับทราบนโยบายการจัดหาชิ้นส่วน และภาพรวมการประกอบรถประเภทต่างๆ ได้แก่ โรงประกอบรถบรรทุกเล็ก รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ และรถประกอบพิเศษ ของบริษัท ฮีโน่ มอเตอร์ ตั้งอยู่ที่เมืองฮามูระ ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงงานประกอบรถ มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 2 จาก 4 โรงงานของฮีโน่ โดยบริษัทสนใจพัฒนาขั้นตอนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพื่อรองรับตลาดในอนาคตด้วย