กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
สหกรณ์จังหวัดน่าน ร่วมมือกับไปรษณีย์ไทย เพิ่มช่องทางการกระจายลำไยสดถึงมือผู้บริโภค หลังคาดการณ์ปีนี้ผลผลิตออกมาทะลัก 1.8 หมื่นตัน เชื่อระบบไปรษณีย์มีความสะดวก ส่งผลผลิตถึงมือผู้สั่งซื้อได้อย่างรวดเร็ว
นางสุภาพ ไทยน้อย สหกรณ์จังหวัดน่าน เปิดเผยว่า สหกรณ์จังหวัดน่าน ได้ร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดช่องทางการจำหน่ายลำไยสดคัดคุณภาพส่งตรงถึงมือผู้บริโภคผ่านระบบการขนส่งของไปรษณีย์ไทย ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ ถือเป็นการกระจายผลผลิตลำไยที่กำลังจะออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2561 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในพื้นที่ภาคเหนือไม่ให้ประสบปัญหาลำไยล้นตลาดจนราคาตกต่ำ หลังจากทางสำนักงานเกษตรจังหวัดน่าน ได้คาดการณ์ปริมาณผลผลิตลำไยในปีนี้ จะออกมาสู่ตลาดมากถึง 18,000 ตัน
ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถทำการสั่งซื้อลำไยสดได้ 2 ช่องทาง คือ การสั่งซื่อผ่านทางเว็ปไซต์ของไปรษณีย์ไทย หรือสั่งซื้อผ่านที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาขา จากนั้นจึงส่งข้อมูลมายังที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดน่าน เพื่อรวบรวมยอดคำสั่งซื้อ ส่งไปยังสหกรณ์จังหวัดน่าน ไปประสานสมาชิกผู้ปลูกลำไย ส่งลำไยสดเกรดคุณภาพคัดพิเศษ (AA) มาราบรวมก่อน ส่งมายังที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดน่าน เพื่อกระจายถึงมือผู้สั่งซื้อภายในระยะเวลาตั้งแต่ 1-3 วัน
"ลำไยเป็นชนิดพืชหนึ่งของจังหวัดน่านที่เกษตรกรในจังหวัดนิยมปลูกเป็นอาชีพ มีพันธุ์ที่ขึ้นชื่อคือพญาแก้ว ซึ่งเกษตรกรชาวสวนลำไยของจังหวัดน่านจะเน้นการปลูกลำไยให้ได้คุณภาพและปลอดสารพิษ ซึ่งผลผลิตจะออกมามากที่สุดในอำเภอท่าวังผา และอำเภอเชียงกลาง โดยในขั้นตอนของการบริการจัดการผลผลิตแปลงลำไย ทางสหกรณ์จังหวัดน่านได้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทางด้านการเกษตรที่เข้ามาส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพ มีการทำมาตรฐานฟาร์มรายแปลง และส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถเข้าร่วมรับรองมาตรฐานการผลิตที่ปลอดภัย หรือจีเอพี อีกทั้งบางส่วนก็มีการทำแบบเป็นเกษตรแปลงใหญ่ตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะที่อำเภอเชียงกลาง ที่ทำแปลงใหญ่หลายราย"
นางสุภาพ กล่าวว่า ทางสหกรณ์จังหวัดน่านได้มีการร่วมมือกับสถาบันเกษตรกรระดับอำเภอประมาณ 5-6 แห่ง เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นสมาชิกในการรวบรวมผลผลิตลำไย ซึ่งในปี 2560 ที่ผ่านมา สามารถรวบรวมผลผลิตลำไย ได้มากถึง 6,000 ตัน ก่อนทำการส่งเสริมการตลาด เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพ และกลไกด้านราคาให้กับเกษตรกร โดยการทำการตลาดในปีที่ผ่านมา มีทั้งผลสดรูดร่วง ที่นำมาอบแห้งแล้วจำหน่ายต่างประเทศ และผลสดทำเป็นลำไยช่อ ส่งไปยังสหกรณ์ปลายทางที่เป็นคู่ค้านอกพื้นที่ เช่นสหกรณ์จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมไปถึงการส่งไปยังตลาดในท้องถิ่น ส่วนปีนี้ สหกรณ์จังหวัดน่านยังได้มีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านระบบไปรษณีย์ ซึ่งเป็นช่องทางการจำหน่ายที่มีคุณภาพ สามารถส่งถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันผลผลิตลำไยที่ออกมาสู่ตลาดนั้น ได้มีการคัดคุณภาพออกเป็น 3 เกรด คือ เกรด AA หรือเป็นเกรดคุณภาพสูงสุดมีผลใหญ่พิเศษ เกรด A มีคุณภาพด้อยลงมา และเกรด B ซึ่งเป็นลำไยคุณภาพปรกติ โดยแต่ละชนิดก็มีราคาแตกต่างกัน คือ เกรด AA มีราคาหน้าสวน อยู่ที่กิโลกรัมละ 20 บาท เกรด A มีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 17 บาท และเกรด B มีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 8 บาท