กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวขณะนี้ว่า จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและของกลุ่มประเทศสำคัญ เช่น จีน ญี่ปุ่น อเมริกา รวมถึงสหภาพยุโรป ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวมีแนวโน้มการขยายตัวสูงขึ้น ซึ่งสามารถสังเกตได้จากสถิติการเดินทางเข้า-ออก สนามบินสุวรรณภูมิ ในเดือนมิถุนายน 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จำนวน 1,441,963 ราย เฉลี่ยต่อวัน จำนวน 48,065 ราย ชาวไทย 291,061 ราย จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางออก จำนวน 1,325,706 ราย เฉลี่ยต่อวัน 44,190 ราย ชาวไทย 284,110 ราย รวมทั้งสิ้นเดินทางเข้าและออกประเทศ จำนวน 3,342,840 ราย
และในวันนี้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมายังสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเพื่อรับฟังบรรยายสรุปในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับ Vat Refund จากกรมศุลกากรและกรมสรรพากร พร้อมสอบถามปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงาน หลังจากนั้นได้ออกไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงาน ณ จุดบริการ Vat Refund สนามบินสุวรรณภูมิ อันเป็นสถานที่ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาขอคืน VAT มากที่สุดในช่วงวันที่ 1 ต.ค.2560 – 30 เม.ย. 2561 ที่ผ่านมาคือ 690,626 คน ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่จะขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ 3 ช่องทางคือ 1) ขอคืนกับเจ้าหน้าที่สรรพากร ณ สำนักงานคืนภาษีมูลค่าเพิ่มท่าอากาศยานบริเวณพื้นที่ผู้โดยสารขาออกส่วนในหลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง 2) ส่งในตู้รับคำร้องที่ตั้งอยู่ ณ สำนักงานคืนภาษีมูลค่าเพิ่มท่าอากาศยาน และ 3) ส่งจดหมายลงทะเบียนกลับมาที่กรมสรรพากร
การขอคืน VAT ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระยะที่ผ่านมาพบว่าปีงบประมาณ 2559 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติขอคืน VAT กับกรมสรรพากร 1.5 ล้านคน โดยซื้อสินค้าไทยคิดเป็นมูลค่าสินค้าตามใบกำกับภาษี 27,772.3 ล้านบาท ปี 2560 นักท่องเที่ยวต่างชาติขอคืน VAT กับกรมสรรพากร 1.8 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มนี้มาซื้อสินค้าไทย คิดเป็นมูลค่าสินค้าตามใบกำกับภาษี 34,356.9 ล้านบาท และล่าสุด ช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 (ต.ค. 2560 – 2561) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาขอคืน VAT กับกรมสรรพากรเกือบ 1.6 ล้านคน ซื้อสินค้าไทยคิดเป็นมูลค่าสินค้าตามใบกำกับภาษี 31,705.3 ล้านบาท
ปลัดท่องเที่ยวฯ เปิดเผยเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (Tourist Assistance Center หรือ TAC) ให้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกด้านภาษา สร้างความเข้าใจ รวมถึงให้ข้อมูลต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว ณ จุดบริการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณจุดบริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยว (VAT Refund for Tourist) เพื่อเป็นการบูรณาการการทำงานที่ดีร่วมกันทั้งด้านการประชาสัมพันธ์ ให้คำแนะนำต่างๆ ตลอดถึงระเบียบกฎหมาย หรือภาษาเกี่ยวกับการคืน VATแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
"ในช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์ไม่ค่อยสู้ดีที่ภูเก็ต นักแต่รัฐบาลและทุกภาคส่วนได้แก้ไขปัญหาจนเป็นที่น่าพอใจ ของทุกฝ่าย อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมามีการแชร์คลิปเรื่องนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อแถวยาวเพื่อการขอคืน VAT Refund ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงฯไม่ได้นิ่งนอนใจโดยได้ประสานทุกหน่วยงานให้อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ โดยทั้ง ตม. และ ศุลกากร คือด่านแรกในการต้อนรับ และ ด่านสุดท้ายในการส่งนักท่องเที่ยวกลับบ้าน
อีกทั้ง VAT Refund คือกลไกสากลที่ทุกประเทศทั่วโลกใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินมากขึ้นและเงินนั้นจะกระจายลงสู่ระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ ดังนั้นวันนี้ตนจึงได้มาให้กำลังใจ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ตลอดจนวันนี้ตนตั้งใจมาเพื่อรับฟังสภาพปัญหาเพื่อนำไปสู่การบูรณาการในการเพิ่มขีดความสามารถ ของประเทศต่อไป"
ในช่วงท้าย ปลัดฯ พงษ์ภาณุ ได้เน้นย้ำถึงเรื่องความปลอดภัยว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกหน่วยงาน รวมถึงผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวต้องคำนึงถึงเป็นลำดับแรก จากเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ตจนส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างมากมายที่ประมาณค่ามิได้ จะเป็นบทเรียนราคาแพงที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและทุกภาคส่วนต้องจดจำและต้องร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกันที่เข้มงวด แม้จะเป็นเรื่องของภัยหรือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติแต่ถ้าทุกฝ่ายไม่ตั้งอยู่บนความประมาทก็จะสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบา และพูดได้อย่างเต็มปากว่าได้ทำอย่างดีที่สุดแล้ว
ดังนั้น หากพี่น้องประชาชนหรือนักท่องเที่ยว ต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว Call Center 1155 หรือ ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC.) 02 - 134 – 4077 โดยเรามีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษาทั้ง ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลี และรัสเซีย เตรียมพร้อมรับสายและให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง