กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--เอบีเอ็ม
- 5 ข้อควรรู้ เพื่อการควบคุมรถอย่างปลอดภัยในระหว่างและหลังฝนตก
- พร้อมรับมือกับการขับขี่ขณะฝนตกที่เสี่ยงอันตรายมากขึ้นได้ด้วยกู๊ดเยียร์
ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นนักขับที่เชี่ยวชาญและเคยชินกับสภาพอากาศชื้นแฉะของฤดูฝน การควบคุมรถจึงกลายเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยมีสถิติสะท้อนให้เห็นความจริงที่น่าใจหายว่า อุบัติเหตุมักเกิดมากขึ้นในระหว่างฝนตก การที่ผู้ขับขี่มีสติและระมัดระวังมากขึ้นเมื่อต้องขับขี่บนถนนที่เปียกและลื่น จึงเป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อต้องขับรถออกไปท่ามกลางสายฝน ควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้เสมอ:
- ละอองฝ้าเกาะกระจกและหน้าต่าง ควรเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อสลายความชื้นภายในรถ หากรถของคุณไม่มีระบบปรับอากาศ ควรเปิดหน้าต่างด้านหลัง ให้มีช่องว่างเพียงพอให้อากาศถ่ายเท
- การชะลอความเร็วเมื่อขับขี่บนถนนเปียก เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากพื้นผิวที่เปียกแฉะจะทำให้ผู้ขับขี่บังคับรถได้ไม่ดีเท่ากับการขับบนพื้นถนนแห้ง นอกจากนี้ อาจต้องใช้ระยะเบรกเพิ่มขึ้นเท่าตัว รวมทั้งอาจบังคับพวงมาลัยหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆ ได้ไม่ดีนัก
- ระยะห่างระหว่างรถของคุณ ควรรักษาระยะห่างระหว่างรถของคุณกับรถคันหน้าให้เหมาะสม เนื่องจากอาจต้องใช้ระยะเบรกยาวขึ้นเมื่อขับรถบนถนนที่เปียกแฉะ นอกจากนี้ การรักษาระยะห่างเอาไว้ จะช่วยไม่ให้รถโดนน้ำที่กระเซ็นมาจากรถคันข้างหน้า ซึ่งจะช่วยให้ทัศนวิสัยดีขึ้น
- เทคนิคด้านมุมมองเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับขี่อย่างปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรมองไปบนถนนข้างหน้า ไปที่จุดหมายเบื้องหน้าที่ต้องการจะไปเสมอ
- การเลี้ยวกระทันหันหรืออย่างกระชากรุนแรง โดยเฉพาะบนพื้นถนนที่แฉะและลื่น อาจทำให้รถสูญเสียการทรงตัว ควรขับขี่ด้วยการบังคับพวงมาลัยอย่างนุ่มนวลและระมัดระวัง
นอกเหนือจากเทคนิคเหล่านี้แล้ว ต้องมั่นใจว่าได้เลือกใช้ยางที่เหมาะสม และมีการตรวจสภาพยานพาหนะของคุณอยู่เสมอ
กู๊ดเยียร์พร้อมตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดยเสริมสมรรถนะด้านความปลอดภัยขณะขับขี่ท่ามกลางสายฝนด้วยยางรุ่นแอชชัวแรนซ์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ 2 ที่สะท้อนความก้าวหน้าของนวัตกรรมยาง ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยกว่าเดิมแม้ในสภาพถนนเปียก เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน การควบคุมทิศทางของรถ และการเบรกที่ดียิ่งขึ้น
นวัตกรรมที่ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคมาเป็นอันดับหนึ่ง คือหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของกู๊ดเยียร์มาโดยตลอด ยางรุ่นแอชชัวแรนซ์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ 2 จึงตอบโจทย์ความต้องการของผู้ผลิตยานยนต์ทั้งหลาย ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าผู้ขับขี่จะมองเห็นจุดเด่นของยางรุ่นนี้ได้อย่างชัดเจน ทั้งในด้านสมรรถนะพร้อมรองรับสภาพอากาศที่เปียกชื้น และการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม
ยางรุ่นแอชชัวแรนซ์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ 2 ของกู๊ดเยียร์ ใช้ส่วนผสมคอมปาวด์ยางที่ล้ำหน้า เสริมด้วยซิลิก้ามากขึ้น และยางเรซินที่ยึดติดแน่น เพื่อเสริมความเหนียวทนทาน เมื่อผสานกับการออกแบบลายดอกยางแบบอสมมาตรอันล้ำสมัย และการออกแบบโพรงอากาศในยางให้มีทรงเหลี่ยมมากกว่าเดิม เส้นยางจึงมีหน้าสัมผัสเต็ม ผิวหน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนได้เต็มพื้นที่ที่สุดในพื้นที่เปียกแฉะ ยางรุ่นแอชชัวแรนซ์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ 2 จึงช่วยให้ระยะเบรกสั้นลงเมื่อเทียบกับยางคู่แข่งชั้นนำ ทั้งนี้ คอมปาวด์ยางรุ่นใหม่ได้รับการทดสอบแล้วในทุกสภาวะอากาศและสภาพถนน ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยให้ผลทดสอบที่แสดงสมรรถนะแห่งความปลอดภัยไร้กังวล
ความปลอดภัยและการทรงตัวบนถนน ถือเป็นคุณค่าหลักของยางเสมอมา โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถท่ามกลางสายฝน ยางรุ่นแอชชัวแรนซ์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ 2 จึงออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่รถส่วนบุคคลขนาดกลาง มีความมั่นใจและสามารถควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบนถนนที่เปียกหรือชื้นแฉะ ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะนำผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบมาสู่เซกเมนต์นี้ในตลาดรถยนต์ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
เกี่ยวกับกู๊ดเยียร์ ประเทศไทย
บริษัท กู๊ดเยียร์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี 2511 และเริ่มต้นผลิตยางในปี 2512 กู๊ดเยียร์นำบริษัทเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในปี 2521 ปัจจุบัน กู๊ดเยียร์ ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยาง OEM และยางทดแทน (replacement) สำหรับรถยนต์ประเภทต่างๆ ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (4x4 SUV) รถบรรทุกขนาดกลางและเล็ก และรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ที่วางจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ โรงงานกู๊ดเยียร์ในประเทศไทย เป็นโรงงานแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นหนึ่งใน 2 ของโรงงาน กู๊ดเยียร์ทั่วโลกที่ผลิตยางล้อเครื่องบิน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกู๊ดเยียร์ ประเทศไทยหรือผลิตภัณฑ์และบริการ เข้าชมได้ที่ www.goodyear.co.th