กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,227.90-1,235.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,500 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,570 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,520 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.03 น. ของวันที่ 23/07/61)
แนวโน้มวันที่ 24 กรกฎาคม 2561
การประชุมกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก 20 ประเทศ (G20) ระยะ 2 วัน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่กรุงบัวโนส ไอเรส รมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุด 20 ประเทศของโลก เรียกร้องให้มีการหารือเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ความตึงเครียดทางการค้าและการเมืองระหว่างประเทศที่จะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่บรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส ระบุว่า EU "จะไม่เจรจากับใครที่เอาปืนมาจ่อที่หัวของเรา" พร้อมยืนยันจะไม่เจรจาการค้ากับสหรัฐจนกว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะยกเลิกภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม พร้อมยกเลิกคำขู่เก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่อาจรุนแรงมากขึ้น อาจกระตุ้นให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอีกจนกลับมากดดันราคาทองคำ หลังปธน.ทรัมป์เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งมากขึ้นในวันศุกร์ด้วยการขู่ที่จะเก็บภาษีสินค้าจากจีนมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ที่จะส่งออกมายังสหรัฐ ถ้าจีนไม่ตกลงที่จะทำการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างที่สำคัญในด้านการโอนย้ายเทคโนโลยี, การอุดหนุนอุตสาหกรรม และนโยบายการลงทุนร่วม รวมทั้งนายแลร์รีย์ คัดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจทำเนียบขาวตำหนิ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน กรณีไม่มีความคืบหน้าด้านเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และเตือนว่า ปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐจะไม่ปล่อยประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้หากสถานการณ์ตึงเตรียดมากขึ้นจะสร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินหยวนและราคาทองคำ นอกจากนี้ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ระบุว่า เฟดจะไม่ได้รับผลกระทบจากความเห็นของปธน.ทรัมป์ของสหรัฐ กรณีนโยบายการเงินสหรัฐ และจะพุ่งเป้าไปยังการบรรลุเป้าหมายที่สภาคองเกรสมอบหมายให้เฟด คำกล่าวดังกล่าวระบุถึงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและการปรับขึ้นดอกเบี้ยซึ่งหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ทั้งนี้ หากราคาทองคำอ่อนตัวลงไม่ต่ำกว่าบริเวณ 1,224 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากมีแรงซื้อเข้ามาค่อนข้างหนาแน่น มีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า แม้ว่าราคาจะฟื้นตัวขึ้นได้จากช่วงก่อนหน้า แต่หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,224 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่อาจออกมาเพิ่มขึ้น อาจทำให้ราคาย่อตัวลงเพื่อสะสมกำลังอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,224 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,224 (19,300บาท) 1,211 (19,100บาท) 1,200 (18,950บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,550บาท) 1,248 (19,750บาท) 1,259 (19,900บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,224 (19,500บาท) 1,211 (19,929บาท) 1,200 (19,120บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,710บาท) 1,248 (19,880บาท) 1,259 (20,060บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999