กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--โมเดิร์นเทียร์
นายประวิชย์ ศรีบัณฑิตมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านการออกแบบ ตกแต่ง ก่อสร้าง และบริหารจัดการกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืนทั้งในส่วนขององค์กร พันธมิตรและสิ่งสำคัญคือคำนึงถึงความรับผิดชอบและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคมและเศรษฐกิจ ในการดำเนินกิจการส่วนต่างๆ อาทิ งานแสดงสินค้า งานตกแต่งภายในและงานก่อสร้าง เป็นต้น
โดยล่าสุด ในปี 2561 บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัล การพัฒนาอย่างยั่งยืน ประจำปี 2018 หรือ The 2018 UFI Sustainable Development Award จาก UFI (The Global Association of the Exhibition Industry) สมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก ที่มีสำนักงานอยู่ในฝรั่งเศส ที่ให้การยอมรับในกระบวนการทำงานของบริษัทที่สอดรับและมีมาตรฐานสากลในด้านการดำเนินกิจการอย่างยั่งยืนสำหรับการแสดงสินค้า โดยคิงส์เมนฯ เป็นบริษัทเดียวในเอเซียที่ได้รับรางวัล ร่วมกับหน่วยงานจากยุโรปและอเมริกา อีกเพียง 5 รายเท่านั้น ซึ่งรางวัลนี้ UFI ถือเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพ และความเป็นมืออาชีพของบริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) ว่าได้รับการยอมรับจากหน่วยงาน ระดับโลกว่าเป็นผู้ให้บริการด้านการแสดงสินค้าที่มีคุณภาพและ ประสิทธิผลอีกด้วย
การได้รับรางวัลด้านการจัดกิจกรรมอย่างยั่งยืนจาก UFI เกิดจากทางคิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. มีระบบบริหารจัดการเพื่อการดำเดินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยยึดหลัก 1. ลดการใช้วัสดุ โดยการประยุกต์ใช้หลัก 3'Rs ได้แก่ ลดการใช้ (Reduce) , ใช้ซ้ำ (Reuse) และ รีไซเคิล (Recycle) และใช้อะลูมิเนียมโปรไฟล์ 2. จัดการการใช้พลังงาน มีการจัดการในเรื่องตารางเวลาและ แผนการทำงานเพื่อจะหลีกเลี่ยงการทำงานเกินเวลา รวมทั้งการจัดการในด้านการจัดส่งสินค้า และการควบคุมการจัดส่ง เพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น 3. การจัดการด้านความเสี่ยงและความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในองค์กรที่จะควบคุม ตรวจสอบและระบุปัจจัยเสี่ยงเพื่อลดปัญหาต่าง ๆ 4. การแบ่งปัน มีการพบปะ พูดคุยกันระหว่างทีมกับผู้ขาย เพื่อหาแนวทางในการใช้วัสดุ ทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยนำหลักทั้ง 4 ข้อมาปรับกระบวนการทำงาน ที่เน้นการให้บริการคำนึงถึงปัญหาที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม อันได้แก่ การคัดแยก ลดเศษวัสดุที่เหลือจากการใช้งาน การประหยัดพลังงาน และลดมลพิษทางอากาศ รวมทั้งใช้วัสดุที่มีความยั่งยืน และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น Waste management & Awareness การจัดการเศษวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว คำนึงถึงการใช้วัสดุที่มีความยั่งยืน โดยการแยกวัสดุประเภทต่าง ๆ ได้แก่ วัสดุทั่วไป วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ โดยเรายังขอความร่วมมือไปยังผู้รับเหมาและสถานที่จัดงานในการคัดแยกวัสดุและขยะหลังจากจบงาน Show decors VS sustainable products การจัดประดับตกตกแต่งงานโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน และแนะนำให้ผู้จัดงานเปลี่ยนรูปแบบการตกแต่งโดยใช้ วัสดุทั่ว ๆ ไปเช่น ไม้ แก้ว และเลือกใช้วัสดุที่ความยั่งยืนอย่าง อะลูมิเนียมโปรไฟล์ สิ่งทอ และอุปกรณ์ LED ที่มีสามารถนำมาใช้ซ้ำได้ Sustainable Marketing Events ในการออกแบบบูธจัดงานทั้งกลางแจ้งและในร่มด้วยวัสดุที่ยั่งยืน รวมถึงใช้ระบบ Modularในการติดตั้งซึ่งไม่ส่งผลกระทบจ่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้การจัดงานเรายังใช้ QR Code สำหรับการลงทะเบียน เพื่อลดการใช้กระดาษ Post Event นำวัสดุที่เหลือใช้จากการจัดงานแสดงสินค้า และกิจกรรมต่าง ๆ นำมาใช้ซ้ำ โดยมีการผลิตใหม่เพื่อนำไปใช้ในโรงเรียน ห้องเรียน ห้องสมุด โต๊ะ เก้าอี้ต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์กับโรงเรียนและนักเรียน
"เราตระหนักดีว่าธุรกิจการจัดงานและงานแสดงสินค้า สามารถสร้างประโยชน์ ให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดงานทุกครั้งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราจึงต้องหันมามองการแก้ หรือลดผลกระทบเหล่านั้นได้อย่างไร รวมถึงการพัฒนาการจัดงานกิจกรรม อย่างยั่งยืนด้วยความรับผิดชอบ ต่อสังคม ดังนั้นรางวัลจาก UFI เปรียบเสมือนการตอกย้ำได้อย่างตรงจุด ช่วยกระตุ้นให้องค์กร บริษัทและพนักงาน เห็นความสำคัญ และเร่งพัฒนาเพื่อความยั่งยืนต่อไป"นายประวิชย์ กล่าว