กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,218.00-1,225.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,400 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,500 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,520 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,570 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.15 น. ของวันที่ 24/07/61)
แนวโน้มวันที่ 25 กรกฎาคม 2561
รัฐบาลจีนดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่อนคลายนโยบายการคลังและการเงินเพื่อลดผลกระทบจากความตึงเครียดด้านการค้า โดยธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบธนาคารประมาณ 7.43 หมื่นล้านดอลลาร์ ผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) เพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบเงินกู้ดังกล่าวมีอายุ 1 ปี ซึ่งธนาคารกลางจีนอัดเงินกู้เสริมสภาพคล่องในประเทศครั้งใหญ่สุดรอบ 4 ปี นอกจากนี้ ทางการจีนเตรียมใช้นโยบายการคลังเชิงรุกมากขึ้น โดยรัฐบาลจีนจะใช้มาตรการลดภาษี 9.6 พันล้านดอลลาร์ ด้วยการขยายนโยบายพิเศษสำหรับบริษัทเทคโนโลยีขนาดเล็กไปจนถึงบริษัททุกแห่ง เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายขั้นต้นในการลดภาษีและค่าธรรมเนียม 1.1 ล้านล้านหยวนในปีนี้ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลังแบบผ่อนคลายส่งผลให้ปริมาณเงินในระบบเพิ่มสูงขึ้น จนค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง ซึ่งหยวนที่ตลาดออฟชอร์ร่วงลงแตะระดับ 6.8448 ต่อดอลลาร์ โดยเข้าใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่อยู่ที่ 6.8582 ต่อดอลลาร์ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2560 ซึ่งค่าเงินหยวนร่วงลงแล้วมากกว่า 7% เมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่สิ้นไตรมาสแรกของปีนี้จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการร่วงลงของหยวนเป็นช่วงเดียวกันกับที่สหรัฐมีปัญหาความขัดแย้งทางการค้ากับจีน และเป็นช่วงที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นค่อนข้างมาก สถานการณ์ดังกล่าวยังคงกดดันราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ทางการจีนประกาศยืนยันไม่ปรับลดค่าเงินหยวนเพื่อหนุนการส่งออก พร้อมย้ำว่าสกุลเงินของจีนได้เคลื่อนไหวไปตามกลไกตลาด หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐเตือนว่ากำลังจับตาดูการอ่อนค่าลงของเงินหยวน แต่นักลงทุนระมัดระวังการเข้าซื้อทองคำเพราะหากทางการจีนยังคงมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายนโยบายทั้งการคลังและการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าได้อีก ทั้งนี้หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทำให้เกิดการอ่อนตัวลง โดยประเมินแนวรับบริเวณที่ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ประเมินว่าเป็นเพียงแรงขายทำกำไรระยะสั้นอาจจะเห็นการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำมีลักษณะการดีดตัว หลังราคาอ่อนตัวลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้หากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ น่าจะเห็นการปรับตัวขึ้นอีกครั้ง โดยประเมินโซนแนวต้านที่ 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระยะสั้นนี้ต้องยอมรับว่าราคาทองคำเมื่อปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายสลับออกมา และนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งหากหลุดบริเวณแนวรับดังกล่าวจำเป็นต้องตัดขาดทุน สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายหากราคาดีดตัวขึ้นหรือบริเวณแนวต้าน แต่หากผ่านได้สามารถถือต่อเพื่อรอทำกำไรที่แนวต้านถัดไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,211 (19,100บาท) 1,200 (18,950บาท) 1,193 (18,850บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,550บาท) 1,248 (19,750บาท) 1,259 (19,900บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,211 (19,300บาท) 1,200 (19,130บาท) 1,193 (19,020บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,720บาท) 1,248 (19,900บาท) 1,259 (20,070บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999