กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--เอบีเอ็ม
หลายๆ คนในแวดวงดิจิทัล คงได้ยินชื่อและรู้จักกับ "ทรู ดิจิทัล พาร์ค" กันมาแล้ว หลังจากกลุ่มทรูประกาศพัฒนาโปรเจ็คท์ยักษ์นี้อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขณะนี้โครงการนี้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ทั้งทางด้านพันธมิตรชั้นนำระดับโลกรวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เตรียมตั้งสำนักงาน และเปิดพื้นที่สร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลภายในโครงการ อย่าง Google ก็เตรียมสร้าง Academy Bangkok – A Google Space ที่นี่ด้วย รวมถึงการก่อสร้างได้เริ่มนับถอยหลังเตรียมเปิดให้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตดิจิทัลสุดล้ำปลายปีนี้ ซึ่งภายในโครงการนี้จะมีไฮไลท์อะไรบ้างนั้น "ทรู ดิจิทัล พาร์ค" จะพาไปชมภาพโซนต่างๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัวภายใต้แนวคิด "Digital Lifestyle-Connecting Possibilities"
ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคนในยุคดิจิทัล ที่ต้องการพื้นที่สำหรับใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ และตอบสนองดิจิทัลไลฟ์สไตล์ได้อย่างเต็มรูปแบบทั้งการทำงานและพักผ่อน นายฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า "ทรู ดิจิทัล พาร์ค ตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกบนถนนสุขุมวิท101 ติดสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของคนดิจิทัล โดดเด่นด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ เทคโนโลยี คน และพื้นที่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างระบบนิเวศครบวงจรเพื่อสตาร์ทอัพ ผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยภารกิจหลักที่ท้าทายคือการเชื่อมต่อระหว่างระบบนิเวศและพื้นที่ เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนดิจิทัลซึ่งปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 80% ยืนยันความพร้อมเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายนนี้อย่างแน่นอน"
ทรู ดิจิทัล พาร์ค มุ่งสร้างระบบนิเวศครบวงจรและคอมมูนิตี้ ซึ่งจะต้องประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก พร้อมเติมเต็มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ให้ใช้ชีวิตแบบสมาร์ทได้อย่างเต็มรูปแบบ ได้แก่ อย่างแรก เทคโนโลยี ภายในโครงการได้ออกแบบและติดตั้งระบบสื่อสารโทรคมนาคมล้ำสมัยด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ดีที่สุดในประเทศ สามารถเชื่อมต่อได้จากทุกพื้นที่ในโครงการ มี Smart IoT Solutions สามารถดูและสั่งงานได้ผ่านมือถือ รองรับการทำงานและไลฟ์สไตล์แบบ Mobility อย่างแท้จริง อาทิ Smart Parking สามารถดูชั้นที่ว่าง และจำนวนได้จากแอปพลิเคชัน, Smart Lighting สามารถตรวจสอบการใช้พลังงานได้ และ Smart Meeting Room สามารถดูตารางการใช้งานและจองห้องประชุมได้ นอกจากนี้ ยังมีการใช้หุ่นยนต์มาช่วยอำนวยความสะดวกภายในโครงการ เช่น บริการส่งของภายในโครงการ
ส่วนที่ 2 ได้แก่ คน ทรู ดิจิทัล พาร์ค เติมเต็มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ในทุกมิติของทุกๆ คนที่ใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเหล่าสตาร์ทอัพ องค์กรธุรกิจ นักลงทุน กลุ่มการศึกษา ศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพต่างๆ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ กลุ่มคนเหล่านี้จะสามารถเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับแลกเปลี่ยนความคิดแบบอิสระ สนับสนุนการเกิดนวัตกรรมดิจิทัล การมาที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค จะได้สิ่งใหม่ๆ และแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้แบบไม่สิ้นสุด
ลำดับสุดท้าย พื้นที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค เข้าใจธรรมชาติและความต้องการของสตาร์ทอัพว่า ความร่วมมือ หรือ Collaboration เป็นเรื่องที่สำคัญ จึงได้ออกแบบพื้นที่เปิดโล่งและเชื่อมต่อถึงกันแบบอิสระให้สามารถพบปะ แลกเปลี่ยนไอเดียกันได้ มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานร่วมกันในทุกโซน ทุกชั้น เช่น ห้องประชุม ห้องพักผ่อน พื้นที่จัดงานอีเว้นท์ หรือเวิร์คช้อปต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ "ทรู ดิจิทัล พาร์ค" ยังเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตได้ทุกแบบในยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัว ซึ่งพื้นที่ต่างๆ ในทรู ดิจิทัล พาร์ค ประกอบด้วย
Campus Lobby ตั้งอยู่บนชั้น 6 มีเคาน์เตอร์กลางที่เป็น hospitality community zone ให้บริการข้อมูลและความช่วยเหลือต่างๆ มองไปจะเห็นบันไดวนเชื่อมต่อไปยังชั้น 5 และ ชั้น 7
Collaboration Area เป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานได้ก่อนที่จะเข้าไปในออฟฟิศส่วนตัว ออกแบบเปิดโล่ง และมีบรรยากาศที่สบาย สามารถนำโน้ตบุ๊คมานั่งทำงานหรือประชุมกันได้ สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ทุกที่ มีพื้นที่ตรงบันไดที่สามารถดัดแปลงทำเป็น town hall จุคนได้ราว 70 – 80 คน
Pantry Area อีกหนึ่งพื้นที่กลางสำหรับใช้พักผ่อน หรือทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆ มีเครื่องทำกาแฟ และในบางชั้นจะมีบาริสต้าคอยให้บริการด้วย
Private Meeting room ห้องประชุมส่วนตัวสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหรือการประชุมที่เป็นทางการ จัดให้เป็นห้องประชุมส่วนกลางที่สามารถจองได้ผ่านแอปพลิเคชัน
Campus Space เป็นพื้นที่ที่เตรียมไว้เพื่อรองรับการขยายตัวของสตาร์ทอัพ เมื่อธุรกิจมีขนาดโตขึ้น ต้องการพื้นที่ออฟฟิศของตัวเอง ไม่ได้อยู่ใน co-working space แล้ว ซึ่งสตาร์ทอัพยังคงสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
Auditorium มี 2 ชั้น สามารถจัดงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่รองรับได้กว่า 500 ที่นั่ง มีความพร้อมในการจัดงานด้วยระบบแสง สี เสียงคุณภาพระดับโลก
Hillside Town / 24-Hour Street พื้นที่ร้านค้า ร้านอาหารชื่อดัง และบริการต่างๆ ครบครัน รองรับทุกไลฟ์สไตล์ และยังมีร้านที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้เต็มรูปแบบ ตลอดเวลา
ทรู ดิจิทัล พาร์ค จะมาเติมเต็มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ชีวิตในทุกๆ วันได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมเปิดโครงการให้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตดิจิทัลสุดล้ำในปลายปีนี้อย่างแน่นอน สามารถติดตามกิจกรรม และงานเสวนาพัฒนาเครือข่ายในแวดวงสตาร์ทอัพและองค์กรธุรกิจดิจิทัลได้ที่ www.facebook.com/TrueDigitalPark/