กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
กรมส่งเสริมสหกรณ์สนองนโยบายรัฐบาล ดึงสหกรณ์ร่วมดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2561/62 ลุยตรวจความพร้อมยุ้งฉางของสหกรณ์ทั่วประเทศเพื่อรองรับปริมาณข้าวเปลือกมาเก็บชะลอไว้ไม่ให้ออกสู่ตลาดในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว พร้อมเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดชัยนาทในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ พบตัวแทนสหกรณ์เป้าหมายใน ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง 200 แห่ง เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในการเตรียมการรองรับการเก็บสต็อกข้าวตามนโยบายรัฐบาล
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร จังหวัดอุบลราชธานี เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต2561/62 ผ่านโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวนาปี วงเงินหมุนเวียน 22,560 ล้านบาท โดยให้เก็บผลผลิตไว้ในยุ้งฉางของเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกร และให้ธกส.ปล่อยสินเชื่อแก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เพื่อชะลอการจำหน่ายผลผลิตข้าวเปลือกในพื้นที่ปลูกข้าวทุกจังหวัดทั่วประเทศ ปริมาณ 2 ล้านตันข้าวเปลือก และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร วงเงินหมุนเวียน 12,500 ล้านบาท เสริมสภาพคล่องให้กับระบบสหกรณ์ในการรวบรวมข้าวเปลือกจากเกษตรกร เพื่อชะลอปริมาณผลผลิตไม่ให้ออกสู่ตลาดในช่วงเก็บเกี่ยว ซึ่งจะช่วยรักษาระดับราคาข้าวเปลือกให้มีเสถียรภาพ และทำให้เกษตรกรสามารถขายข้าวเปลือกได้ราคาที่สูงขึ้น
"กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบจำนวนยุ้งฉางของสหกรณ์ทั่วประเทศว่าสามารถรองรับผลผลิตจากเกษตรกรได้ในปริมาณเท่าใด และต้องการเน้นให้เก็บชะลอข้าวเปลือกในพื้นที่ภาคกลางเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสหกรณ์ในพื้นที่ภาคกลางมียุ้งฉางเก็บรวบรวมข้าวไม่กี่แห่ง แนวทางต่อไปอาจให้สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการรวบรวมข้าวเปลือกจากสมาชิกแล้วนำไปเก็บหรือฝากไว้ที่ยุ้งฉางของภาคเอกชนแทน หรือไปดำเนินการเช่ายุ้งฉางของเอกชนก็ได้ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องสำรวจข้อมูลยุ้งฉางของสหกรณ์ทุกจังหวัด และให้จำแนกว่าสหกรณ์ใดดำเนินธุรกิจข้าวแบบซื้อมาขายไปปริมาณเท่าไหร่ และซื้อมาเก็บชะลอไว้ หรือแบ่งเพื่อแปรรูปเป็นข้าวสาร มีปริมาณเท่าไหร่ แบ่งเป็นข้าวชนิดใดบ้าง เพื่อจะได้ทราบปริมาณที่แน่ชัด และประเมินได้ว่าสหกรณ์ในพื้นที่ไหนที่มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ซึ่งภายในวันที่ 15 สิงหาคม นี้ จะได้ข้อมูลเรื่องจำนวนยุ้งฉางและปริมาณการรวบรวมข้าวเปลือกของสหกรณ์ทั้งหมด เพื่อนำมาวางแผนในการรองรับปริมาณข้าวเปลือกที่จะเข้าสู่ระบบสหกรณ์ในฤดูกาลผลิตปี 2561/62 ต่อไป" อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามในวันที่ 3 สิงหาคม 2561 นี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์จะมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องมาตรการช่วยเหลือและรักษาเสถียรภาพข้าวปี 2561 / 62 ที่จังหวัดชัยนาท โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะไปพบกับผู้แทนสหกรณ์ในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ประมาณ 200 สหกรณ์ ที่มีสมาชิกทำนาข้าว เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจในมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปี 61/62 และคาดว่าจะมีการจัดประชุมชี้แจงกับสหกรณ์ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานในรอบต่อไป เพื่อใช้กลไกสหกรณ์ช่วยดึงปริมาณข้าวเปลือกที่จะออกสู่ตลาดในปริมาณที่เหมาะสม และสามารถบรรเทาปัญหาราคาข้าวตกต่ำได้ในที่สุด