กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--
ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองพลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ กล่าวปาฐกถาในการสัมมนา "SDGs ก้าวใหม่ธุรกิจไทย" ว่าการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้า ตลอด 70 ปีนั้นมีตั้งแต่เรื่องสุขภาพ ความยากจน ความมั่นคงทางอาหาร ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การศึกษา น้ำ พลังงานทดแทน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น แนวพระราชดำริของพระองค์จึงเกิดก่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDG) นอกจากนี้งานที่ทรงทำยังครอบคลุมในทุกเรื่องของ SDG
ม.ร.ว.ดิศนัดดา เชื่อว่าการที่ประชาชนทั่วโลกประสบปัญหาต่างๆ นานา และต้องหาทางแก้ไข ปรับปรุงกันอยู่นั้นจะนำไปสู่ระบบของสังคมแบบใหม่ คือสังคมแบบหลายห่วงใยและแบ่งปัน (CARE AND SHARE) โดยยืนอยู่บนฐานของการพัฒนาคนให้เข้มแข็ง ซึ่งสอดรับกับแนวพระราชดำริภูมิสังคม และการระเบิดจากข้างใน แนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ยังรองรับการพัฒนาทุกระดับตั้งแต่พัฒนาอาชีพให้คน กลุ่มคน ไปจนการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดย่อม เพื่อการแปรรูป เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน
"เราเห็นตัวอย่างจากโรงงานหลวง สวนจิตรลดา มีผลิตภัณฑ์มากมาย ที่เริ่มด้วยการพัฒนารากฐานที่มั่นคง กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน เช่น นมเม็ดสวนจิตรลดา ที่เริ่มจากการเลี้ยงวัวนมและแก้ไขปัญหานมวัวล้นตลาด หรือผลิตภัณฑ์แบรนด์ดอยตุง ที่เริ่มจากการสร้างงาน สร้างอาชีพ และพัฒนาตลอดห่วงโซ่มูลค่า"
ภาคธุรกิจก็ได้เรียนรู้แนวพระราชดำริหลังวิกฤตทางการเงินในการหันมาสร้างภูมิคุ้มกัน และหันมาคำนึงผลกระทบต่อผู้อื่นและสังคมวงกว้างมากขึ้น
"ประเทศไทยสามารถเป็นผู้นำการพัฒนาของโลกได้ไม่ยาก เพราะเราเรียนรู้จากโครงการพระราชดำริมานาน และเอกชนก็ต้องเข้าใจว่า ถ้าสังคมส่วนรวมอยู่ไม่เป็นสุข บริษัทเองก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย"
นาย ศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมเครือข่าย global compact ประเทศไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่าบริษัท ฯให้ความสำคัญกับการพัฒนาร่วมไปกับสังคม พร้อมทั้งกำหนดให้เป็นนโยบายองค์กรที่มีการปฏิบัติกันทุกระดับ อย่างไรก็ตาม มีความจำเป็นที่ไทยจะต้องปรับปรุงการศึกษาเพื่อพัฒนาคนตามพระราชดำริ
"ระบบการศึกษาปัจจุบันมุ่งด้านความรู้และคะแนน จนละเลยการศึกษาเพื่อคุณค่าทางสังคม ปัจจุบันบริษัทจึงเข้าร่วมในด้านพัฒนาการศึกษาในโรงเรียนค้นแบบประมาณห้าพันแห่งทั่วประเทศ"
นายศุภชัย กล่าวว่าได้ร่วมเรียนรู้และร่วมงานกับปิดทองหลังพระ ฯ ทำให้เกิดความเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งมากขึ้น ดังนั้น จึงจะนำสมาชิกเครือข่าย global compact เจ้ามาร่วมงานด้วยต่อไปในอนาคต สมาคมเครือข่าย global compact ประเทศไทย เป็นองค์กรกลางของบริษัทขนาดใหญ่ 15 แห่งที่มีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน และเข้าเป็นเครือข่ายภายใต้องค์การสหประชาชาติ