กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 01 สิงหาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,219.70-1,224.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,310 บาท โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,310 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.20 น. ของวันที่ 01/08/61)
แนวโน้มวันที่ 02 สิงหาคม 2561
ท่ามกลางสัญญาณการผ่อนคลายความตึงเครียดด้านความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เมื่อสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผู้แทนของนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐและรองนายกรัฐมนตรี หลิว เหอ ของจีนพยายามจัดการเจรจาอีกครั้ง หนุนการปรับขึ้นของราคาทองคำ อย่างไรก็ตามราคาทองคำขยับขึ้นได้ไม่ไกลมากนัก หลังสื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วางแผนที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% คิดเป็นวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าแผนการที่สหรัฐเคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมาว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 10% ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าจำนวน 6,031 รายการ ตั้งแต่สินค้าเพื่อผู้บริโภคไปจนถึงสินค้าด้านการเกษตร โดยมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมในครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ย. ขณะเดียวกันราคาทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มเติม เมื่อธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ปรับลดค่ากลางเงินหยวนอย่างเป็นทางการสู่ระดับอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่ผ่านมา ค่ากลางเงินหยวนอย่างเป็นทางการปรับลดลง 0.19% สู่ 6.8293 หยวนต่อดอลลาร์ เงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ของสหรัฐ นับเป็นการปรับลดลงติดต่อกัน 4 เดือนและยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี อย่างไรก็ดี แนะนำให้ติดตามการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ในวันที่ 2 สิงหาคม ซึ่งขณะนี้ตลาดปรับตัวรับโอกาสเกือบ 90% ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% แต่นักลงทุนจับตาว่าบีโออี อาจจะมีการส่งสัญญาณชะลอการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอังกฤษ หลังอังกฤษเผชิญแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแผนเจรจา Brexit ทางวายแอลจีมีมุมมองว่าหากราคาทองคำอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง สำหรับผู้ที่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากแรงซื้อไม่เพิ่มขึ้น แนะนำให้นักลงทุนขายทองคำออกมาเพื่อทำกำไรระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำอาจมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,235-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรสลับออกมา เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคามีการปรับตัวขึ้นก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,215-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,200-1,193 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,211 (19,000บาท) 1,200 (18,800บาท) 1,193 (18,700บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,400บาท) 1,248 (19,600บาท) 1,259 (19,750บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,211 (19,130บาท) 1,200 (18,960บาท) 1,193 (18,850บาท)
แนวต้าน 1,237 (19,550บาท) 1,248 (19,720บาท) 1,259 (19,890บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999