กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มดีขึ้นน่าจะช่วยกระตุ้นให้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ เบี้ยประกันภัยอุตสาหกรรมและทรัพย์สิน รวมถึงเบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง สามารถเติบโตต่อไปในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2561 อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรของอุตสาหกรรมอาจถูกจำกัดโดยการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นจากการเปิดเสรีค่าเบี้ยประกันของผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย
บริษัทประกันวินาศภัยที่มีการติดตามและประเมินผลตอบแทนที่จะได้รับและความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท รวมถึงมีการพัฒนาระบบการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาความสามารถในการสร้างผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจนั้น จะช่วยให้บริษัทมีความสามารถที่ดีกว่าในการรองรับความผันผวนทางธุรกิจจากการแข่งขันที่รุนแรงเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจประกันภัยรถยนต์ซึ่งมีอัตราส่วนค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ที่ถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง
ฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดว่าจะมีบริษัทประกันภัยใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นจากการควบรวมกิจการหรือจากการเข้าร่วมทดสอบและพัฒนานวัตกรรมตามกรอบการนำเทคโนโลยีใหม่มาสนับสนุนการให้บริการด้านประกันภัย ซึ่งบริษัทประกันภัยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นน่าจะทำให้การแข่งขันภายในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอีกแต่ในขณะเดียวกันก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมทางด้านผลิตภัณฑ์ ด้านการบริการและการบริหารจัดการซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมให้สูงขึ้นได้
ฟิทช์คาดว่าบริษัทประกันวินาศภัยไทยซึ่งมีสินทรัพย์ลงทุนที่ทรงตัวและมีสภาพคล่องดีจะมีความสามารถในการรองรับความผันผวนทางธุรกิจรวมถึงสามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันต่างๆได้ ในขณะที่บริษัทในภาคอุตสาหกรรมยังคงมีเงินกองทุนอยู่ในระดับที่แข็งแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากผลการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยของประเทศไทย อุตสาหกรรมประกันวินาศภัยโดยรวมน่าจะสามารถรักษาระดับเงินกองทุนให้อยู่ในระดับสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ต้องดำรงตามกฏหมายภายหลังการประกาศใช้กรอบการดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยงระยะที่สองของประเทศไทยในปี 2562 ได้
รายงานเรื่อง "Thailand Non-Life Insurance Dashboard 2018" สามารถหาดูได้จาก www.fitchratings.com