กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ร่วมกับ UNODC รัฐบาลไทย เยอรมนี และเปรู ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทางเลือก (Expert Group Meeting on Alternative Development – EGM) เตรียมเสนอนโยบายยาเสพติดโลก 2562 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานคณะกรรมการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ องค์ปาฐกในการประชุมหัวข้อ The Evolving Context of Alternative Development: Expert Insights กล่าวว่า "การดำเนินโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ประสบผลสำเร็จในการแก้ปัญหาการปลูกฝิ่นในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ เป็นบทพิสูจน์ว่ารากเหง้าของปัญหายาเสพติดคือความยากจนและการขาดโอกาส ฉะนั้นการให้โอกาสและการสร้างทางเลือกในการดำรงชีวิตและอาชีพสุจริตจึงเป็นหัวใจของการพัฒนาทางเลือก แต่เมื่อพิจารณาถึงปัญหายาเสพติดในปัจจุบันจะพบว่าไม่ใช่ปัญหาพืชเสพติดอีกต่อไป แต่เป็นปัญหายาเสพติดที่เป็นสารเคมี ซึ่งแพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็วกว่าพืชเสพติด เราจึงควรนำแนวทางและสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการพัฒนาทางเลือกมาปรับใช้ในการแก้ปัญหายาเสพติดสมัยใหม่ ตามที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ได้ทรงริเริ่มแล้ว และเน้นการดำเนินการอย่างบูรณาการและยึดคนเป็นศูนย์กลาง โดยการปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทนั้นๆ"
ในส่วนของการประชุมหัวข้อ Recent initiatives on Alternative Development หม่อมหลวงดิศปนัดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ องค์ปาฐกกล่าวในการประชุมว่า "การแลกเปลี่ยนการนำแนวทางการพัฒนาทางเลือกที่เดิมดำเนินการในพื้นที่ชนบทที่ปลูกพืชเสพติดไปปรับใช้ในชุมชนเมืองเพื่อแก้ปัญหาการค้ายาเสพติด ซึ่งตอนนี้มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เริ่มดำเนินงานลักษณะดังกล่าวแล้ว การพัฒนาทางเลือกต้องมุ่งเน้นการพัฒนา "เศรษฐกิจทางเลือก" ไม่ใช่แค่การพัฒนาพืชทางเลือก เพื่อให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนได้อย่างยั่งยืน และเป็นทางออกได้สำหรับทั้งชุมชนชนบทและชุมชนเมืองที่ล้วนประสบปัญหาความยากจน ความเลื่อมล่ำ การขาดโอกาส และความไม่มั่นคงอื่นๆ การร่วมมือกับภาคีเครือข่ายรวมทั้งภาคเอกชนเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชุมชนเร็วพอและจับต้องได้ชัดเจนเพื่อเป็นทางเลือกให้ชุมชนไม่ต้องกลับไปข้องเกี่ยวกับสิ่งผิดกฏหมายอีก"