กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่ประชุม กกร. โดยนายปรีดี ดาวฉาย ประธาน กกร. เห็นว่าเศรษฐกิจไทยยังรักษาแรงส่งของการเติบโตที่ดีได้ต่อเนื่อง จากแรงหนุนของการส่งออกและการท่องเที่ยว อีกทั้งมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว และรายได้เกษตรกรที่กลับมาเป็นบวกติดต่อกันซึ่งจะช่วยประคองกำลังซื้อของฐานรากไม่ให้แย่ลง โดยรวมแล้ว จึงประเมินว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2561 จะขยายตัว 4.3-4.8%, การส่งออก คาดว่าจะเติบโต 7.0-10.0% และอัตราเงินเฟ้อคงจะอยู่ที่ 0.9-1.5% ซึ่งเป็นกรอบประมาณการเมื่อเดือนกรกฎาคมของ กกร.
ในระยะข้างหน้า ยังคงต้องติดตามประเด็นเศรษฐกิจต่างประเทศโดยเฉพาะการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งแม้ว่าในปีนี้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยยังมีจำกัด แต่ผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอาจจะมีเพิ่มขึ้นในปีหน้าถ้าสหรัฐฯ เก็บภาษีจากจีนมากขึ้นทั้งรายการสินค้าและอัตราภาษี รวมทั้งจะส่งผลกระทบต่อทิศทางค่าเงินในภูมิภาคให้ยังมีแนวโน้มผันผวนอ่อนค่าลงตามการอ่อนค่าของเงินหยวนด้วย
นอกจากนี้ ต้องติดตามสถานการณ์อุทกภัยในประเทศ ที่ ณ ขณะนี้ ปริมาตรน้ำในเขื่อนทั่วประเทศ อยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2554 อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น กกร. ประเมินว่า สถานการณ์น่าจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงเท่ากับมหาอุทกภัยเมื่อปี 2554 เนื่องจากปริมาตรน้ำในเขื่อนที่สูงนั้น อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันตกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แตกต่างจากในปี 2554 ที่ผลกระทบเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของหลายนิคมอุตสาหกรรมเป็นหลัก รวมถึงการคาดการณ์จำนวนพายุที่จะเข้ามาในช่วงฤดูฝนที่เหลือของปีนี้ ที่น่าจะไม่มากเท่ากับในช่วงเดียวกันของปี2554