TWPC โชว์ยอดขายครึ่งปีแรก พุ่งแตะ 3,377 ลบ. เพิ่มขึ้นกว่า 18% มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตแรง อานิสงส์ยอดส่งออกแป้งมันฯพุ่ง-ต้นทุนหัวมันถูกลง เริ่มเปิดฉากรับรู้รายได้จากรง.แห่งใหม่ในกัมพูชาและเวียดนาม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 8, 2018 10:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ส.ค.-- "โฮ เรน ฮวา" บิ๊กบอส บมจ.ไทยวา หรือ TWPC แย้มแนวโน้มผลงานโค้งหลังปี 61 โตแรงแซงทางโค้ง อานิสงส์ปริมาณการส่งออกแป้งมันสำปะหลังพุ่ง-ต้นทุนราคาหัวมันฯลดลง พร้อมรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ทั้งในประเทศกัมพูชา และเวียดนาม รวมทั้งโรงไฟฟ้าแห่งแรกที่จังหวัดอุดรธานี และจากบริษัท สำปะหลังพัฒนา หรือ TDC เข้ามาเพิ่มเติมอีก นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และผู้นำตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสดและวุ้นเส้นแห้งในประเทศไทย เปิดเผยถึงผลประกอบการสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มียอดขายรวมอย่ที่ 3,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 509 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ โดยมาจากรายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังจำนวน 1,394 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA) จำนวน 1,268 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจอาหารจำนวน 715 ล้านบาท แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 2561 คาดว่าจะสามารถเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High season ประจำปี ประกอบกับได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณความต้องการสินค้าแป้งมันสำปะหลังที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงต้นทุนราคาหัวมันสำปะหลังที่ลดลง นอกจากนี้ ยังเริ่มมีการรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ ทั้งในประเทศกัมพูชา และเวียดนาม รวมทั้งโรงไฟฟ้าแห่งแรกที่จังหวัดอุดรธานี ด้วยขนาดกำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ "เราคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้ดี ซึ่งจะเข้าสู่ช่วง High season อันเนื่องจากเป็นฤดูเกี่ยวกับหัวมันสำปะหลังเข้าโรงงาน นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากบริษัท สำปะหลังพัฒนา หรือ TDC เข้ามาเพิ่มเติมอีก นอกจากนี้เราได้ผ่านช่วงต่ำสุดของปีมาแล้ว ทำให้เราเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตได้ตามแผนงานที่เราวางไว้" นายโฮ เรน ฮวา กล่าว ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือในปีนี้ของบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดี อาทิ Van sale และ Modern Trade ให้สูงขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้ง วางงบลงทุนไว้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ในสำหรับ 2-3 ปีข้างหน้าเพื่อรองรับการขยายธุรกิจหรือต่อยอดจากธุรกิจเดิม พร้อมทั้งรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในอัตราที่สูง เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในระยะยาว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ