กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 08 สิงหาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,210.20-1,215.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,180 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,230 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.51 น. ของวันที่ 08/08/61)
แนวโน้มวันที่ 09 สิงหาคม 2561
รัฐสภายุโรปได้ตกลงที่จะผ่อนคลายกฎสภาพคล่องใหม่สำหรับธนาคารที่ซื้อขายทองคำ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสำหรับการรณรงค์ของสมาคมตลาดทองลอนดอน (LBMA) ในการปรับแผนดังกล่าว รวมทั้งคณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนระบุว่า จีนจะใช้นโยบายการเงินต่างๆ เช่น การลดเป้าหมายสัดส่วนการกันเงินสำรองของธนาคาร (RRR) สำหรับธนาคารต่างๆ เพื่อสนับสนุนการแปลงหนี้เป็นทุนในปีนี้ ในขณะที่จีนพิจารณาการลดสัดส่วนหนี้สินของผู้ประกอบการ ประเด็นดังกล่าวช่วยกระตุ้นแรงซื้อทองคำ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบ เพราะนักลงทุนชะลอการซื้อขายทองคำก่อนที่นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) และนายโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีฝ่ายกิจการกระตุ้นศรษฐกิจของญี่ปุ่น จะจัดการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ที่กรุงวอชิงตัน เพื่อหารือในประเด็นการค้า เช่น ประเด็นภาษีนำเข้ารถยนต์ เพราะหากผลการประชุม มีสัญญาณของความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความร้อนแรงขึ้นกับสหรัฐ หากทั้งสองประเทศต่างเรียกเก็บภาษีซึ่งกันและกัน ดอลลาร์ก็จะมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง นอกจากนี้สภาทองคำโลก(WGC) เปิดเผยว่า กองทุน ETF ทองคำเผชิญกับเม็ดเงินไหลออกในอเมริกาเหนือ, ยุโรป และเอเชียในเดือนก.ค. ซึ่งสอดคล้องกับกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดของโลก ลดการถือครองทองคำลง -1.178 ตันในวันอังคาร สู่ระดับ 787.532 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2560 ทั้งนี้หากนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงแล้ว -12.664 ตัน สะท้อนกระแสเงินทุนที่ยังคงไหลออกจากกองทุน ETF ทองคำอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นแนะนำให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,217-1,228 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อย ๆ อ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,200-1,193 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากสามารถยืนเหนือบริเวณนี้ได้มีโอกาสเกิดแรงซื้อดันราคาขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,200 หรือ 1,193 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัว และพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบในระยะสั้น อย่างไรก็ตามหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิค ดังนั้นนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,217-1,228 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนเมื่อราคาตั้งฐานได้อีกครั้ง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,200 (18,800บาท) 1,193 (18,700บาท) 1,186 (18,600บาท)
แนวต้าน 1,217 (19,150บาท) 1,228 (19,300บาท) 1,235 (19,400บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,200 (18,990บาท) 1,193 (18,880บาท) 1,186 (18,770บาท)
แนวต้าน 1,217 (19,260บาท) 1,228 (19,430บาท) 1,235 (19,550บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999