ศปถ. รณรงค์ ตั้งสติก่อนสตาร์ท ..... เร็ว เมา ง่วง โทรไม่ขับ

ข่าวทั่วไป Wednesday December 19, 2007 10:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--ศปถ.
ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ร่วมรณรงค์ ตั้งสติก่อนสตาร์ท ... เร็ว เมา ง่วง โทร ไม่ขับ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้รถใช้ถนนลดพฤติกรรมเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และสร้างความปลอดภัยในการเดินทางตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๑
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า จากสถิติอุบัติเหตุจราจร พบว่า กว่าร้อยละ ๘๐ เกิดจากพฤติกรรมและความประมาทของผู้ขับขี่ ทั้งจากการขับรถเร็ว การเมาแล้วขับ การง่วงแล้วขับ และการใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้กำหนดแนวคิดในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๑ ที่มุ่งเน้นการควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ ได้แก่ “ตั้งสติก่อนสตาร์ท.... เร็ว เมา ง่วง โทร ไม่ขับ” เพื่อสร้างความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ดังนี้ ความเร็ว ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจราจรสูงสุด เนื่องจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อระยะการหยุดรถ และหากประสบอุบัติเหตุ แรงปะทะ ณ จุดเกิดเหตุจะเพิ่มสูงขึ้น ผู้ขับขี่ควรขับรถในอัตราความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด คือ ๙๐ กม./ชม. ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะมีเวลาเพียงพอในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงจากการชนและลดอัตราการเสียชีวิต และการบาดเจ็บ เมา ผู้ที่ดื่มแล้วขับมีโอกาสเสี่ยงต่อการบาดเจ็บถึง ๖.๖ เท่า เสี่ยงเสียชีวิตสูงถึง ๙.๖ เท่าของผู้ที่ไม่ได้ดื่ม เนื่องจากแอลกอฮอล์ จะทำให้ความสามารถในการขับรถลดลง การตัดสินใจ และการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินจะช้าลงกว่าปกติ ๘ เท่า สายตาพร่ามัว จึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน หากดื่มจนมีอาการเมา ไม่ควรขับรถเองอย่างเด็ดขาด ควรจอดพักบริเวณที่ปลอดภัยจนกว่าจะหายเมาแล้วค่อยขับรถ หรือใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ หรือ รถแท็กซี่จะปลอดภัยมากกว่า หากไปด้วยกันหลายคน ควรให้ผู้ที่ไม่ดื่มเป็นผู้ขับแทน
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า นอกจากการขับรถเร็ว และการเมาแล้วขับแล้ว ความง่วงก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการขับรถในระยะทางไกลติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้ผู้ขับขี่มีอาการเมื่อยล้า อ่อนเพลีย และหลับใน ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุจราจร ผู้ขับขี่ที่ง่วงนอนจะมีโอกาสหลับในประมาณ ๓ — ๕ วินาที ทำให้รถปราศจากการควบคุมเป็นระยะทางประมาณ ๑๐๐ เมตร อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุการชนในลักษณะประสานงา และอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ก่อนการเดินทาง ผู้ขับขี่ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน หากอดนอนอยู่แล้ว ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด เพราะจะเพิ่มโอกาสในการหลับในมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ง่วงนอนง่าย คนอ้วน ควรหลีกเลี่ยงการขับรถตามลำพัง เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะหลับใน ถ้าเดินทางคนเดียว และมีอาการง่วงนอน ควรแวะจอดพักบริเวณสถานีบริการน้ำมัน หรือจุดพักริมทางที่ปลอดภัย เพื่อล้างหน้า และพักหลับประมาณ ๑๕ นาที กรณีเดินทางหลายคน ควรสลับกันขับหรือชวนคนขับคุย สำหรับ การใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถ มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากกว่าการขับขี่ในเวลาปกติ ๒ — ๔ เท่า เพราะขณะคุยโทรศัพท์ สมาธิของผู้ขับขี่ไม่ได้อยู่ที่การขับรถ แต่อยู่กับบทสนทนา เมื่อเกิดเหตุการณ์คับขัน จึงไม่สามารถหยุดรถได้ทัน แม้จะใช้อุปกรณ์เสริม เช่น แฮนด์ฟรี สมอลล์ทอล์ค แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องจากปฏิกิริยาในการตอบสนองจะช้ากว่าปกติถึง ๐.๕ นาที หากต้องใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ ควรจอดรถเข้าข้างทาง จะปลอดภัยมากกว่า
เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ตรวจสอบสภาพรถ สภาพเส้นทางและเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเดินทาง ที่สำคัญ ควรตั้งสติก่อนสตาร์ท .... เร็ว เมา ง่วง โทรไม่ขับ อย่างเด็ดขาด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง ซึ่งจะเป็นการเปิดฉากเทศกาล ปีใหม่ ๒๕๕๑ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข และความปลอดภัย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ