กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--ปตท.
วันนี้ (10 สิงหาคม 2561) พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีส่งมอบ "โครงการอาคารประหยัดพลังงานและศูนย์การเรียนรู้พลังงานทดแทน" และ "โครงการปลูกผักกางมุ้ง สร้างฝัน สร้างรอยยิ้ม" ระหว่าง มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน และ สถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด (บ้านภูมิเวท) อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นับเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านพลังงานทดแทน การใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า รวมถึงส่งเสริมและพัฒนาทักษะอาชีพด้านการเกษตรแก่กลุ่มเยาวชนด้อยโอกาส ให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ สามารถพัฒนาชีวิต สร้างอาชีพและรายได้ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ พร้อมกลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณภาพ
นายอรรถวุฒิ วิกิตเศรษฐ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน ซึ่งก่อตั้งโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้สนับสนุนการดำเนิน "โครงการก่อสร้างอาคารประหยัดพลังงานและศูนย์การเรียนรู้พลังงานทดแทน" และ "โครงการปลูกผักกางมุ้ง สร้างฝัน สร้างรอยยิ้ม" ให้แก่ สถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด (บ้านภูมิเวท) จ.นนทบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมส่งเสริมและพัฒนาให้สังคมไทยมีความเข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดสร้างอาคารประหยัดพลังงานและศูนย์การเรียนรู้ด้านพลังงานทดแทน ในลักษณะอาคารสองชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวม 96 ตารางเมตร และได้ติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนหลังคา หรือ Solar Rooftop ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 10 กิโลวัตต์ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 88,000 บาทต่อปี อาคารแห่งนี้จะเป็นต้นแบบอาคารประหยัดพลังงาน สำหรับผู้สนใจได้ศึกษาเรียนรู้ ต่อยอดองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมพลังงานทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับ "โครงการปลูกผักกางมุ้ง สร้างฝัน สร้างรอยยิ้ม" จะเป็นโรงเรือนระบบปิดขนาด 6 เมตร x 18 เมตร มีพื้นที่เพาะปลูกรวม 120 ตารางเมตร ใช้ในการฝึกทักษะอาชีพด้านการเกษตร ปลูกผักปลอดสารพิษสำหรับเยาวชน เพื่อให้เยาวชนสามารถนำองค์ความรู้ไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวในอนาคต สามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมแก่เยาวชนให้ดำเนินชีวิตในสังคมอย่างมีคุณภาพ
ทั้งนี้ความร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในครั้งนี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนให้เติบโตเป็นสมาชิกที่ทรงคุณค่าของสังคม และเป็นกำลังสำคัญในการร่วมส่งเสริมให้สังคม ชุมชนมีความเข้มแข็ง ประเทศมีความก้าวหน้าพัฒนาอย่างยั่งยืนตลอดไป