กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,205.50-1,213.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,100บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,130 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,160 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.27 น. ของวันที่ 10/08/61)
แนวโน้มวันที่ 14 สิงหาคม 2561
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ความเสี่ยงจากระบบกีดกันทางการค้าและภาษีที่สูงขึ้นของสหรัฐต่ออียู บั่นทอนความเชื่อมั่น ส่งผลให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเกือบ 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับนักลงทุนมีความวิตกเพิ่มขึ้น เมื่ออิตาลีมีแผนใช้จ่ายจำนวนมากที่ไม่ยั่งยืน แรงกดดันดังกล่าว กดดันยูโรให้ร่วงลงมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1.1438 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2560 ขณะเดียวกัน ปอนด์ร่วงลง 1.55% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า อังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรป(EU) โดยปราศจากข้อตกลงใดๆ ซึ่งนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษเตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่อังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) โดยปราศจากข้อตกลง ถือเป็นแนวโน้มที่ไม่น่าพึงปรารถนา กดดันให้เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 1 ปีครั้งใหม่ ที่ 1.2798 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดรอบ 13 เดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ปัจจัยดังกล่าวกดดันราคาทองคำให้กลับมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 17 เดือน นอกจากนี้ความตึงเครียดทางการค้าโลกที่รุนแรงขึ้นกระตุ้นความต้องการดอลลาร์ หลังการเจรจาระหว่าง นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายโทชิมิสึ โมเทกี รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่น ไม่อาจบรรลุข้อตกลงได้ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับนโยบายการค้า ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเรียกร้องให้สหรัฐกลับมาพิจารณาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(TPP) แต่สหรัฐยืนยันที่จะสนับสนุนการทำข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคี นักลงทุนจึงจับตามองการเจรจาการค้าของญี่ปุ่นในกรุงวอชิงตัน หากสถานการณ์สงครามการค้าตึงเครียดมากขึ้น ดอลลาร์จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในทันทีในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ทั้งนี้ หากระยะสั้นราคาทองคำทดสอบแนวต้านในโซน 1,217-1,228 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วยังคงไม่สามารถขึ้นไปยืนได้ แนวโน้มราคาทองคำยังคงมีการแกว่งตัวในทิศทางอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,217-1,228 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับแรกไว้ที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,193 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,200 (18,850บาท) 1,193 (18,750บาท) 1,186 (18,650บาท)
แนวต้าน 1,217 (19,150บาท) 1,228 (19,350บาท) 1,235 (19,450บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,200 (19,010บาท) 1,193 (18,900บาท) 1,186 (18,790บาท)
แนวต้าน 1,217 (19,280บาท) 1,228 (19,460บาท) 1,235 (19,570บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999