กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--โตโยต้า มอเตอร์
ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายนทรงตัว รถเก๋งหดตัว รถเพื่อการพาณิชย์เพิ่ม ขายรวม 57,719 คัน สะสม 11 เดือน 566,905 คัน ลดลง 5.1%
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือน พฤศจิกายน 2550 ด้วยปริมาณการขาย 57,719 คัน ลดลง 0.1% โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 13,645 คัน ลดลง 14.9% รถเพื่อการพาณิชย์ 44,074 คัน เพิ่มขึ้น 5.5% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 39,140 คัน เพิ่มขึ้น 1.2%
ทางด้านสถิติการขายสะสม 11 เดือนของปี 2550 มีปริมาณทั้งสิ้น 566,905 คัน ลดลง 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 158,099 คัน ลดลง 6.9% รถเพื่อการพาณิชย์ 408,806 คัน ลดลง 4.4% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 358,672 คัน ลดลง 8.4%
ประเด็นสำคัญ
1. ตลาดรถยนต์ 11 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการหดตัวน้อยลงในทุกตลาด ด้วยยอดขายรวม 566,905 คัน ลดลง 5.1% ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเจริญเติบโตลดลง 6.9% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเจริญเติบโตลดลง 4.4% ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีอัตราการเติบโตลดลง 8.4% เป็นผลมาจากการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา อาทิ โตโยต้านิว วีออส โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ขับเคลื่อน 2 ล้อ อีซูซุรุ่นฉลอง 50 ปี ฮอนด้าซีอาร์วี เชฟโรเลต แคปติว่าและโคโลราโด เป็นต้น
2. ตลาดรถยนต์ในเดือน พฤศจิกายน มีอัตราการเติบโตทรงตัว ปริมาณการขาย 57,719 คัน ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาแบ่งเป็นรถยนต์นั่งเติบโตลดลง 14.9% ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากผลกระทบในด้านการปรับตัวของตลาดเนื่องจากนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกของรัฐบาล (E20)
ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีการเติบโต 5.5% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เช่นเดียวกับ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้มีอัตราการเติบโตที่ 1.2% เป็นผลมาจากกิจกรรมส่งเสริมการขายของทุกค่ายรถยนต์ การมอบเงื่อนไขการเช่าซื้อที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ ประกอบกับกิจกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในปลายเดือนธันวาคมจะมีส่วนกระตุ้นให้ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีการเติบโต แม้ว่าแม้ว่าจะมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดจากการปรับราคาขายปลีกน้ำมัน ที่มีการปรับราคาถึง 6 ครั้งในเดือนพฤศจิกายน จนทำสถิตินิวไฮ ก็ตาม
3. ตลาดรถยนต์เดือนธันวาคม คาดว่าจะมีปริมาณการขายที่สูงอีกเดือนหนึ่ง ซึ่งตามสถิติการขายแล้วเดือนธันวาคม จะเป็นเดือนที่มีปริมาณการขายสูงที่สุดของปี ทั้งนี้เนื่องมาจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมข้อเสนอพิเศษต่างๆ เพื่อหวังบรรลุเป้าหมายทางการขายในช่วงสิ้นปี ยอดจองรถยนต์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ซึ่งในปีนี้มีสูงถึง 17,566 คัน ประกอบกับกิจกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม จะมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือน พฤศจิกายน 2550
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 57,719 คัน ลดลง 0.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 26,173 คัน เพิ่มขึ้น 1.4% ส่วนแบ่งตลาด 45.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 16,014 คัน ลดลง 4.1% ส่วนแบ่งตลาด 27.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 3,506 คัน ลดลง 30.3% ส่วนแบ่งตลาด 6.1%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 13,645 คัน ลดลง 14.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,232 คัน ลดลง 2.2% ส่วนแบ่งตลาด 60.3%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,162 คัน ลดลง 34.7% ส่วนแบ่งตลาด 23.2%
อันดับที่ 3 เชฟโรเล็ต 614 คัน ลดลง 47.1% ส่วนแบ่งตลาด 4.5%
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* ปริมาณการขาย 39,140 คัน เพิ่มขึ้น 1.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 16,284 คัน ลดลง 0.5% ส่วนแบ่งตลาด 41.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,221 คัน ลดลง 3.5% ส่วนแบ่งตลาด 38.9%
อันดับที่ 3 นิสสัน 2,606 คัน เพิ่มขึ้น 100.5% ส่วนแบ่งตลาด 6.7%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 2,357 คัน
โตโยต้า 1,216 คัน — อีซูซุ 1,049 คัน — ฟอร์ด 92 คัน
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 36,783 คัน เพิ่มขึ้น 1.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 15,068 คัน เพิ่มขึ้น 2.2% ส่วนแบ่งตลาด 41.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 14,172 คัน ลดลง 5.7% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
อันดับที่ 3 นิสสัน 2,606 คัน เพิ่มขึ้น 100.5% ส่วนแบ่งตลาด 7.1%
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 44,074 คัน เพิ่มขึ้น 5.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,941 คัน เพิ่มขึ้น 3.2% ส่วนแบ่งตลาด 40.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 16,014 คัน ลดลง 4.1% ส่วนแบ่งตลาด 36.3%
อันดับที่ 3 นิสสัน 2,697 คัน เพิ่มขึ้น 95.4% ส่วนแบ่งตลาด 6.1%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม — พฤศจิกายน 2550
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 566,905 คัน ลดลง 5.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 251,671 คัน ลดลง 0.8% ส่วนแบ่งตลาด 44.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 133,765 คัน ลดลง 12.8% ส่วนแบ่งตลาด 23.6%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 56,961 คัน ลดลง 1.7% ส่วนแบ่งตลาด 10.0%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 158,099 คัน ลดลง 6.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 84,784 คัน เพิ่มขึ้น 2.3% ส่วนแบ่งตลาด 53.6%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 48,610 คัน ลดลง 15.2% ส่วนแบ่งตลาด 30.7%
อันดับที่ 3 เชฟโรเล็ต 6,700 คัน เพิ่มขึ้น 1.1% ส่วนแบ่งตลาด 4.2%
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* ปริมาณการขาย 358,672 คัน ลดลง 8.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 152,059 คัน ลดลง 5.6% ส่วนแบ่งตลาด 42.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 124,528 คัน ลดลง 13.0% ส่วนแบ่งตลาด 34.7%
อันดับที่ 3 นิสสัน 28,689 คัน เพิ่มขึ้น 38.4 % ส่วนแบ่งตลาด 8.0%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 20,585 คัน
โตโยต้า 13,604 คัน — อีซูซุ 6,118 คัน — ฟอร์ด 863 คัน
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 338,087 คัน ลดลง 8.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 138,455 คัน ลดลง 3.5% ส่วนแบ่งตลาด 41.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 118,410 คัน ลดลง 14.0% ส่วนแบ่งตลาด 35.0%
อันดับที่ 3 นิสสัน 28,689 คัน เพิ่มขึ้น 38.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.5%
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 408,806 คัน ลดลง 4.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 166,887 คัน ลดลง 2.3% ส่วนแบ่งตลาด 40.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 133,765 คัน ลดลง 12.8% ส่วนแบ่งตลาด 32.7%
อันดับที่ 3 นิสสัน 30,468 คัน เพิ่มขึ้น 35.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.5%