กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--
ในปีที่ผ่านมาโครงการ "ตามรอยศาสตร์พระราชา เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน" ได้ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ทั้งยังได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ดังนั้นในปี 2561 นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้ต่อยอดสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการเผยแผ่ศาสตร์แห่งองค์ราชา "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" สู่สากล กับโครงการ "แหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา สู่การเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว" โดยโครงการนี้เป็นการน้อมนำศาสตร์ของพระราชา เพื่อมาต่อยอดในการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา และการเดินทางเพื่อเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว หรือการเดินทางสู่เมืองรอง
โดย โครงการแหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา สู่การเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว ได้รับความร่วมมือจากคณะเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ กว่า 25 ประเทศ ตอบรับคำเชิญในการลงพื้นที่สัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวพร้อมๆ กับการเรียนรู้ และสัมผัสกับกลิ่นอายของวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์ของสมุนไพร การเกษตรกรรม การนวดแบบโบราณ ตลอดจนการสวมชุดไทย เพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมไทยโบราณแบบถึงแก่น
โครงการแหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา สู่การเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว เริ่มต้นเส้นทางแรก ณ โครงการ 1 ไร่แก้จน ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน มณฑลทหารบกที่ 16 จังหวัดราชบุรี–ชุมชนบ้านศาลาดิน จังหวัดนครปฐม นำโดย มร.โมฮัมเหม็ด นาจารี ทูตวัฒนธรรมโมร็อกโก และ มร.เบอร์นาร์โด ดิแอซ ลูกชายท่านทูตปานามา โดยมี นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ที่ปรึกษา 9 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ รองผู้ว่าราชการ จ.นครปฐม, นายณรงค์ศักดิ์ หอมมาลัย ปลัด จ.ราชบุรี, พ.อ.หญิง สมปรารถนา เรียนแจ้ง หัวหน้าคณะทำงานศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชนมณฑลทหารบกที่ 16, นางธัญภา นิโครธานนท์ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงาน สุพรรณบุรี และ นายวิศรุต อินแย้ม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงาน กาญจนบุรี ให้การต้อนรับและพาเยี่ยมชมโครงการฯ พร้อมเรียนรู้หลักเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดาริ ตามฐานต่างๆ อาทิ การเลี้ยงหมูหลุม, การเลี้ยงไก่แบบจำกัดพื้นที่, การเลี้ยงกบคอนโด, การปลูกผักสวนครัว และ การทำปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งท่านทูตได้ให้ความสนใจลงมือทดลองทำด้วยตัวเองทุกจุดเลยทีเดียว จากนั้นจึงเดินทางต่อไปยังชุมชนบ้านศาลาดิน ต้อนรับด้วย Welcome drink เป็นชาบัว น้ำสมุนไพรตามวิถีชาวบ้านแบบปลอดสารพิษ พร้อมข้าวตังสดใหม่จากเตาที่ทำจากข้าว รับฟังการบรรยายเกี่ยวกับชุมชน นำโดย คุณปราณี สวัสดิ์แดง ผู้บริหารกิจการข้าวตังบ้านศาลาดิน พร้อมทดลองทำกิจกรรมตามฐาน ไม่ว่าจะเป็นการทดลองพับกลีบดอกบัว ล่องเรือเก็บบัวในนาบัว เรียนรู้การทำข้าวตัง และลิ้มลองความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์
นายวิศรุต อินแย้ม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี กล่าวว่า "โครงการ "แหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา สู่การเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว" เป็นโครงการต่อยอดศาสตร์แห่งองค์ราชา "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" สู่สากล เพื่อเผยแพร่ศาสตร์ของพระราชา ในการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา และเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว ด้วยกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ได้ผสานวิถีชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง"
ขณะที่ มร.โมฮัมเหม็ด นาจารี ทูตวัฒนธรรมโมร็อกโก กล่าวว่า "รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาเห็นและสัมผัสกับโครงการต่างๆ ของพระราชา ทำให้ได้เรียนรู้ถึงศิลปวัฒนธรรมของเมืองไทยอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้กับประชาชนของโมร็อกโกได้ในอนาคต แม้ว่าวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของทั้งสองประเทศจะแตกต่างกัน แต่ศาสตร์พระราชาที่ตนได้ลงมือสัมผัสและเรียนรู้ด้วยตนเองในครั้งนี้ นับว่าน่าสนใจและมีคุณค่ามากทีเดียว"
สำหรับ โครงการแหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา สู่การเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว อยู่ระหว่างเดือนสิงหาคม-เดือนกันยายน ประกอบด้วย 5 เส้นทาง คือ โครงการ 1 ไร่แก้จน ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน มณฑลทหารบกที่ 16 จ.ราชบุรี–ชุมชนบ้านศาลาดิน จ.นครปฐม, โครงการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำต้นลำปะเทีย-ชุมชนบ้านโคกเมือง จ.บุรีรัมย์, โครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ-ชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง, โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง-ชุมชนบ้านแหลม จ.นครศรีธรรมราช และโครงการเกษตรวิชญา-ชุมชนบ้านไร่กองขิง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมโยงทั้งทางด้านพื้นที่ และการเชื่อมโยงด้านการน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง สามารถร่วมติดตามและเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.tourismthailand.org/kingwisdom