ไทยออยล์ ประสบความสำเร็จในการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 275,000 บาร์เรล/วัน

ข่าวทั่วไป Wednesday December 19, 2007 15:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--ไทยออยล์
โครงการขยายกำลังการผลิตหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 (CDU-3) ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) แล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนดราว 1 สัปดาห์ สามารถเริ่มเดินเครื่องเพื่อผลิตและขายน้ำมันสำเร็จรูปเชิงพาณิชย์ได้ ทำให้กำลังการผลิตรวมของโรงกลั่นไทยออยล์เพิ่มจาก 225,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 275,000 บาร์เรลต่อวัน หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีขึ้นตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ โครงการขยายอื่นๆ ก็แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งทำให้สามารถรองรับกำลังการผลิตของโรงกลั่นที่เพิ่มขึ้นและเสริมความแข็งแกร่งของผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ
นายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้หยุดเดินเครื่องหน่วยกลั่นสำคัญ เช่น หน่วย CDU-3 หน่วย Hydrocracker รวมทั้ง หน่วยผลิตมิกซ์ไซลีนส์ของ บจ. ไทยพาราไซลีน (TPX) ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2550 เพื่อทำการซ่อมบำรุงใหญ่ (Major Turnaround) และเชื่อมต่อหน่วยกลั่นเข้ากับโครงการส่วนขยาย (Expansion Tie-in) ของบริษัทฯ และบจ. ไทยพาราไซลีน ซึ่งนับเป็นการหยุดเดินเครื่องครั้งประวัติศาสตร์ของไทยออยล์เนื่องจากเป็นงานซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของโรงกลั่น และเป็นงานที่ซับซ้อนกว่าปกติ เนื่องจากมีทั้งงานก่อสร้างหน่วยกลั่นใหม่ งานปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับกำลังการผลิตส่วนขยาย โดยผู้รับเหมาที่ควบคุมโครงการต้องดำเนินงานในขณะที่มีหน่วยกลั่นบางหน่วยยังคงเดินเครื่องตามปกติ จึงทำให้ต้องคำนึงถึงความระมัดระวังในด้านความปลอดภัยควบคู่ไปกับความสำเร็จของงาน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก ดังนั้น บริษัทฯ ได้ระดมกำลังพลกว่า 7,300 คนเพื่อร่วมดำเนินการดังกล่าวจนสำเร็จเรียบร้อยเร็วกว่ากำหนดราว 1 สัปดาห์”
นายวิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า “การก่อสร้างโครงการขยายกำลังการผลิตหน่วย CDU-3 แล้วเสร็จ (Mechanical Completion) ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งทำให้บริษัทฯ เริ่มผลิตน้ำมันสำเร็จรูปที่มีคุณภาพตามที่กำหนดได้เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2550 และหลังจากนั้น บริษัทฯ ก็ทยอยทดสอบประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาจนเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้โรงกลั่นไทยออยล์มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 275,000 บาร์เรลต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 22% จากเดิมที่ 225,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างขั้นตอนการเดินเครื่องเพิ่มขึ้นเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการผลิต ณ ระดับสูงสุด ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าหน่วย CDU-3 สามารถใช้กำลังการผลิตได้สูงสุด 200,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้กำลังการผลิตสูงสุดรวมของบริษัทฯ มาอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาร์เรล/วัน นับว่าเป็นความสำเร็จอย่างสูงในการดำเนินการโครงการขยายกำลังการผลิตหน่วย CDU-3 ดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการและประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพของบริษัทฯ และผู้รับเหมาผู้ควบคุมโครงการตลอดระยะเวลาดำเนินงานกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา”
“ ในด้านความคุ้มทุน โครงการลงทุนขยายกำลังการผลิตหน่วย CDU-3 อีก 50,000 บาร์เรลต่อวันใช้เงินลงทุนเพียง 218 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นต้นทุนการลงทุนได้บาร์เรลละประมาณ 4,000 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากเพราะการสร้างโรงกลั่นใหม่ในปัจจุบันจะต้องใช้เงินลงทุนมากขึ้นราว 3-5 เท่า ดังนั้น จึงทำให้ผลตอบแทนโครงการลงทุนในครั้งนี้อยู่ในระดับสูงมาก และการที่โครงการดังกล่าวแล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนดและเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่ บริษัทฯ จึงเตรียมโยกกำลังคนและผู้รับเหมาที่เสร็จภารกิจในการขยายกำลังการผลิตหน่วย CDU-3 เพื่อเข้าเสริมทีมในการดำเนินการโครงการก่อสร้างขยายงานของ บจ. ไทยพาราไซลีน ซึ่งวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตสารอะโรเมติกส์จาก 420,000 ตันต่อปี เป็น 900,000 ตันต่อปี โดยวางเป้าหมายที่จะดำเนินโครงการส่วนขยายดังกล่าวให้เสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2551”
“ นอกจากนี้ ในด้านการลงทุนในโครงการอื่นเพื่อสนับสนุนการขยายงาน เช่น โครงการติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้ากังหันก๊าซตัวใหม่ กำลังการผลิต 38 เมกะวัตต์ ก็ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา พร้อมรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้ง โครงการติดตั้งทุ่นผูกเรือเดี่ยวและท่อรับน้ำมันดิบใต้ทะเลขนาด 52 นิ้ว (New Single Buoy Mooring “SBM-2”) ก็จะแล้วเสร็จในเดือนมกราคมนี้ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขนน้ำมันดิบโดยเรือบรรทุกน้ำมันดิบที่มีขนาดระวางบรรทุก 2 ล้านบาร์เรล จากปัจจุบันที่รับเรือขนาดระวางบรรทุก 1.5 ล้านบาร์เรล จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งน้ำมันดิบ” นายวิโรจน์ กล่าวเสริม
บมจ.ไทยออยล์ เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ก่อตั้งขึ้นในปี 2504 เป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีกระบวนการผลิตเชื่อมโยงกับธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจอโรเมติกส์ ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า ธุรกิจการขนส่งน้ำมันทางเรือและทางท่อ มีสถานที่ตั้งโรงกลั่นอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในปัจจุบันมีกำลังการผลิตน้ำมันปิโตรเลียม 275,000 บาร์เรล/วัน คิดเป็น 25% ของกำลังการผลิตทั้งหมดในประเทศ บริษัทฯ และบริษัทในเครือ รวม 10 บริษัท มีสินทรัพย์รวม 137,047 ล้านบาท ณ วันที่ 30 ก.ย. 2550 และมีรายได้จากการขาย 199,810 ล้านบาท ใน 9 เดือนแรกของปี 2550
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
นิรมล ลิขิตประธาน
ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์
บมจ.ไทยออยล์
โทรศัพท์ 02-299-0000 ต่อ 7121
มือถือ 081-624-2991

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ