กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ. ยูเอซี โกลบอล หรือ UAC แข็งแกร่ง เผยผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,653.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น117.05% และมีกำไรสุทธิ 108.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.10 % จากการเติบโตของธุรกิจเทรดดิ้ง และไบโอดีเซล ด้านผู้บริหาร "ชัชพล ประสพโชค" ปรับกลยุทธ์ขยายงานแบบเชิงรุกของธุรกิจเทรดดิ้ง และไบโอดีเซล พร้อมศึกษาต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่มาร์จิ้นสูง สร้างการเติบโตของรายได้ให้ได้ตามเป้าปี 2020 แตะ 3,000 ล้านบาท
นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 2/2561 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ จำนวน 374.04 ล้านบาท ลดลง 7.93 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 406.24 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 16.04 ล้านบาท ลดลง 59.77% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39.86 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ จำนวน 1,653.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117.05% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 761.95 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 108.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.10% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 61.58 ล้านบาท
และมี EBITDA งวด 6 เดือนแรกปี 2561 อยู่ที่ 230.31 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจของบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจเทรดดิ้งที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจไบโอดีเซล ภายใต้บริษัทร่วมทุนที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 30% ในบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) เติบโตเพิ่มขึ้นตามการปรับสูตรปรับเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซล (B100) ในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากเดิมร้อยละ 5 หรือ B5 เป็นร้อยละ 7 หรือ B7 สำหรับน้ำมันดีเซลในประเทศเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
กรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) กล่าวเพิ่มว่า ในครึ่งปีหลังของปีนี้ คาดว่าจะมีสีสันมากขึ้นโดยเฉพาะในไตรมาส 3/2561 คาดว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ จะมีการขยายตัวแบบเชิงรุกมากขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจ เทรดดิ้งที่มองว่ามีความต้องการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้นของกลุ่มลูกค้าโรงกลั่นน้ำมัน และปิโตรเคมีที่มีการขยายกำลังผลิตส่งผลให้สารเคมีและอุปกรณ์ไปใช้ในกระบวนการผลิตเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นและผลิตภัณฑ์ของ UAC ก็มีความหลากหลายซึ่งลูกค้ามีความต้องการผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ไปใช้กับกระบวนการผลิตของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ส่วนธุรกิจไบโอดีเซล มีการเติบโตสูงขึ้นจากการส่งเสริมของนโยบายภาครัฐที่มีการกำหนดให้ปรับเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซล (B100) ในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากเดิมร้อยละ 5 หรือ B5 เป็นร้อยละ 7 หรือ B7 สำหรับน้ำมันดีเซลในประเทศอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะปรับเป็นB10 และ B20 ในอนาคต จึงเชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 30% น่าจะออกมาดี ปัจจุบันมีการเดินโรงงาน (Plant Utilization) กว่าร้อยละ 90 ของกำลังผลิตสูงสุดที่ 24 ล้านลิตร/เดือน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ ที่จะต่อยอดธุรกิจไบโอดีเซล เพื่อการทำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มี High Value Added (HVA) Products อาทิเช่น การผลิต Refined Glycerin สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์ การทำ Biopolymer เพื่อทดแทนเม็ดพลาสติกต่างๆ ด้วย ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มี Margin ในระดับสูง เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเดิม
ดังนั้นมั่นใจว่าปี 2561 เป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลของธุรกิจที่บริษัทได้ลงทุนต่อเนื่องตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปีนี้มากกว่า 2,000 ล้านบาท และมี EBITDA ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท ตามแผนการขยายธุรกิจทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ Trading ด้านเคมีภัณฑ์ ที่มีการนำเข้าและจำหน่ายสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรเคมี ซึ่งยังมีทิศทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯวางกลยุทธ์ในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเข้ามาจำหน่าย พร้อมกับยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิม และ ขยายฐานลูกค้าใหม่ๆเข้ามาเพิ่มขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายรายได้ปีละ 3,000 ล้านบาทในปี 2020