กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 15 สิงหาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,186.20-1,194.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 18,830 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,900 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.46 น. ของวันที่ 15/08/61)
แนวโน้มวันที่ 16 สิงหาคม 2561
ประธานาธิบดีตุรกี นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ได้ลงนามในคำสั่งขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าบางรายการจากสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษีต่อรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 120%, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 140% และยาสูบ 60% นอกจากนี้ยังมีการขึ้นภาษีต่อสินค้าต่างๆ ซึ่งรวมถึงเครื่องสำอาง, ข้าว และถ่านหิน หลังจากปธน.ทรัมป์ได้สั่งการให้เพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีกสองเท่า โดยอัตราภาษีเหล็กนำเข้าจากตุรกีจะอยู่ที่ 50% และอลูมิเนียมอยู่ที่ 20% ประเด็นดังกล่าวหนุนดอลลาร์แตะจุดสูงสุดครั้งใหม่รอบ 13 เดือนอีกครั้งเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ จากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการร่วงลงของเงินลีราของตุรกี ซึ่งกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงทำระดับต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 18 เดือน นอกจากนี้ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้น เมื่อสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า Sinopec บริษัทน้ำมันแห่งชาติของจีนเลื่อนการนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐออกไปโดยไม่มีกำหนด ทั้งนี้สำนักข่าวรอยเตอร์ประเมินจากการกำหนดส่งมอบว่า จีนนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐฯในเดือน ม.ค.-ส.ค. 61 ปริมาณ 335,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ในเดือน ก.ย. 2561 ประเมินว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 198,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ปัจจุบันข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้า สถานการณ์ดังกล่าว กดดันเงินหยวนให้อ่อนค่าลงหลุดจากระดับ 6.9 หยวนต่อดอลลาร์ซึ่งเป็นแนวรับจิตวิทยา ทั้งนี้ China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 1.61% แตะ 6.8856 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันพุธนี้ ซึ่งกระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาขยับขึ้น แต่หากไม่สามารถผ่านระดับ 1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ราคาทองคำจะปรับตัวลงทดสอบแนวรับในโซน 1,181-1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,181 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคา โดยการย่อตัวลงของราคาทองคำไม่ควรหลุดแนวรับโซน 1,181-1,170 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนซื้อขายในระยะสั้น ส่วนนักลงทุนระยะกลางคงต้องรอการย่อตัวและการตั้งฐานของราคาทองคำได้อย่างแข็งแกร่งจึงเข้าซื้อทองคำเพิ่มเติม
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,181 (18,600บาท) 1,170 (18,400บาท) 1,162 (18,300บาท)
แนวต้าน 1,203 (18,950บาท) 1,214 (19,150บาท) 1,223 (19,300บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,181 (18,730บาท) 1,170 (18,550บาท) 1,162 (18,430บาท)
แนวต้าน 1,203 (19,080บาท) 1,214 (19,260บาท) 1,223 (19,400บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999