กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--ไทยทีวีสีช่อง 3
บทประพันธ์ : ฐิญาดา
กำกับการแสดง : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
บทโทรทัศน์ : ปัณชญา
ผลิตโดย : บริษัททีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
รสิกา (โรส) ครีเอทีฟโฆษณาสาวสวยบุคลิกทันสมัย มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก แต่กลับคลั่งไคล้การอ่านนิยายและดูหนังประเภทย้อนอดีต ข้ามภพข้ามชาติเป็นชีวิตจิตใจ ในห้องนอนของรสิกาจึงมีแผ่นหนังและหนังสือพวกนี้สะสมไว้เป็นจำนวนมาก
วันหนึ่งรสิกาไปซื้อหนังสือนิยายพีเรียดสมัยรัชกาลที่ 6 ตอนปลาย (พ.ศ. 2466-2474) มาจากร้านหนังสือลึกลับในตลาดนัดสวนจตุจักร เรื่อง "ดั่งพรหมลิขิตรัก" เป็นหนังสือเก่า ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 25 ปีที่แล้ว สภาพหนังสือก็เก่าแก่ไปตามกาลเวลา ตัวหนังสือชื่อเรื่องที่หน้าปกเลือนรางไปเล็กน้อย กระดาษเนื้อในก็เป็นสีเหลืองเก่าๆ แต่รสิกาก็ซื้อมาเพราะอ่านแล้วรู้สึกเหมือนใครบางคนเขียนถึงตน
รสิกาหยิบหนังสือนิยายเล่มนั้นขึ้นมาอ่าน ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนบรรยากาศรอบตัวมีภาพของบ้านเมืองในยุคเดียวกับในหนังสือซ้อนทับขึ้นมาแบบรางๆ จนอินกับเนื้อเรื่องในนิยายมากถึงขั้นบอกกับบัวและอำพล ผู้เป็นพ่อและแม่ว่า เนื้อเรื่องในนิยายจะต้องเป็นอดีตชาติของตนกับหม่อมเจ้าดนัยเทพรังสรรค์ พรหมกุล (ท่านชายก้อง) ผู้เป็นพระเอกในนิยายแน่ๆ
แต่ยิ่งอ่าน รสิกาก็ยิ่งทนไม่ได้เพราะการะเกด นางเอกในนิยายที่รสิกาปักใจเชื่อว่าเป็นอดีตชาติของตนนั้นถูกบุษริน ผู้เป็นแม่เลี้ยง และบุษยาลูกติดสามีเก่าของบุษรินกดขี่ห่มเหงและเอารัดเอาเปรียบทุกทาง การะเกดเป็นคนเรียบร้อยมาก หัวอ่อน ไม่สู้คน และทั้งที่เป็นลูกสาวเจ้าพระยาแต่กลับชอบหมกตัวทำกับข้าว ทำขนมอยู่แต่ในครัว ไม่ยอมออกไปไหนนอกจากไปวัด รสิกาอ่านแล้วก็คิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นการะเกดจะไม่มีวันได้เจอกับท่านชายก้องแน่นอน และตนก็จะไม่ได้พบท่านชายในฝันที่กำลังปลื้มอยู่ด้วยนั่นเอง
รสิกาพยายามเลียนแบบวิธีเดินทางย้อนอดีตแบบหนังเรื่องต่างๆ แต่งตัวให้เหมือนสมัยรัชกาลที่ 6 ตอนปลาย หาสิ่งของเครื่องใช้สมัยนั้นมาตกแต่งห้อง และพยายามสะกดจิตตัวเองว่าตนคือการะเกด แต่ก็ยังไม่สามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปได้
มีนและโอม เพื่อนสนิทของรสิกาที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกันรู้เรื่องเข้าก็หาว่ารสิกาบ้า ที่มโนตามนิยายเป็นตุเป็นตะขนาดนี้ ทั้งคู่พยายามพูดให้รสิกาเลิกคิดเพ้อเจ้อ แต่รสิกาก็ยืนยันหนักแน่นว่าตนไม่ได้คิดไปเอง และจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเนื้อเรื่องในนิยายนั้นเป็นเรื่องของตนกับท่านชายก้องจริงๆ
เมื่อวิธีการเดินทางย้อนเวลาแบบหนังเรื่อง Somewhere in time, Back to the future และอีกหลายเรื่องที่รสิกางัดมาใช้ไม่ได้ผล รสิกาจึงไปหาซื้อกระจกแบบในนิยายเรื่องทวิภพมาตั้งไว้ในห้องนอน แล้วนั่งจ้องนอนจ้องทั้งวันทั้งคืน แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของท่านชายก้องในกระจกบานนั้น
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ขณะที่รสิกาอ่านนิยายอยู่นั้นบรรยากาศรอบตัวของรสิกาก็เปลี่ยนจากยุคปัจจุบัน กลายเป็นสมัยรัชกาลที่ 6 รสิกาประหลาดใจมาก แต่ก็ดีใจด้วยที่ตนสามารถเดินทางย้อนเวลามาหาท่านชายก้องได้แล้วจริงๆ
รสิกาตามการะเกดมาที่วังทินวงศ์ และบังเอิญรวมร่างเข้ากับการะเกด ที่วังทินวงศ์กำลังมีงานเลี้ยงวันเกิดของ ม.ร.ว. วิไลเลขา ทินวงศ์ (หญิงแต้ว) ขณะที่หม่อมพรรณรายกำลังจะประกาศหมั้นระหว่างหญิงแต้วกับท่านชายก้อง รสิกาก็โผล่มากลางงานคัดค้าน ทำให้แขกเหรื่อในงานแตกตื่น
หม่อมเจ้ารวีโชติ พ่อของหญิงแต้วให้คนรับใช้ช่วยกันไล่จับรสิกาโยนออกไปนอกงาน รสิกาวิ่งหนีไปชนกับท่านชายก้องที่มาร่วมงานด้วย ท่านชายก้องเห็นหน้ารสิกาก็จำได้ เพราะรสิกาเคยช่วยท่านชายก้องไว้ไม่ให้ถูกรถชนโดยบังเอิญ ด้วยเหตุนี้ท่านชายก้องจึงช่วยให้รสิกาหนีออกจากงานเลี้ยงไปได้แบบหวุดหวิด โดยที่ทั้งคู่ยังไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันเลย
หลังจากช่วยใหรสิกาหนีออกจากงานเลี้ยงไปได้แล้ว จิตใจของท่านชายก้องก็พะวงอยู่แต่กับรสิกา อยากรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน สร้างความน้อยใจให้หญิงแต้วมาก จน พีระ ผู้ติดตามและควบตำแหน่งเพื่อนสนิทของท่านชายก้องต้องออกปากเตือนท่านชายก้องให้ใส่ใจความรู้สึกของหญิงแต้วบ้าง เพราะถึงแม้ท่านชายก้องจะไม่ได้รักหญิงแต้ว แต่ก็ตกปากรับคำกับผู้ใหญ่ไปแล้วว่าจะยอมหมั้นหมายด้วย จึงควรถนอมน้ำใจหญิงแต้วบ้าง เพราะหญิงแต้วรักท่านชายก้องมากจริงๆ
ในขณะเดียวกัน ชวาลา (ต้น) ผู้เป็นญาติสนิทของท่านชายก้องก็ดูออกว่าพีระแอบรักหญิงแต้วมานานโดยที่ท่านชายก้องไม่รู้เรื่อง แต่เพราะความเจียมตัวว่าเป็นเพียงลูกมหาดเล็กในวังที่ได้รับการชุบเลี้ยงอย่างดี ได้เรียนหนังสือเท่าเทียมกับท่านชายก้องทุกอย่างเพื่อจะได้ติดตามรับใช้ท่านชายก้องอย่างใกล้ชิด จึงทำให้พีระยอมเก็บงำความรู้สึกของตัวเองมาโดยตลอด
ชวาลาเคยบอกให้พีระสารภาพกับท่านชายก้อง เพราะถ้าท่านชายก้องรู้ว่าพีระรักหญิงแต้ว ท่านชายก้องจะต้องสนับสนุนความรักของพีระกับหญิงแต้วแน่นอน แต่พีระไม่อยากสร้างความลำบากใจให้หญิงแต้ว จึงยอมเจ็บเสียเอง
รสิกาได้เจอกับการะเกด และได้คุยกันเรื่องแหวนแก้วใสที่ได้มาจากตลาดโดยบังเอิญ แหวนวงนี้จะผูกพันระหว่างรสิกากับการะเกด เมื่อคนนึงใส่แหวนร่างของอีกคนจะกลายเป็นร่างใสทันที การะเกดให้รสิกาเป็นคนสวมแหวนเพื่อให้ตัวเองกลายเป็นร่างใส และมีเวลาเขียนนิยายที่ตัวเองชอบให้สำเร็จ รสิกายอมรับสมอ้างสวมรอยเป็นการะเกดเพราะอยากจะช่วยการะเกดเอาคืนบุษรินและบุษยาอยู่แล้ว
จวงรู้สึกว่าการะเกดมีอาการเพี้ยนๆ พูดจาด้วยภาษาไม่คุ้นหู แถมยังจำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้อีกด้วย แต่เธอก็ดีใจมากที่คุณหนูของตนเริ่มสู้คน ไม่ใช่คนหัวอ่อน เรียบร้อยที่ชอบเก็บตัวทำอาหารอยู่แต่ในครัวเหมือนเมื่อก่อนก็ยุให้การะเกดทวงเครื่องเพชรที่บุษรินยืมไปแล้วไม่ยอมคืนเอากลับมาให้ได้ รสิการับปากว่าจะจัดการให้ เพราะหมั่นไส้สองแม่ลูกตัวแสบตั้งแต่ตอนอ่านนิยายแล้ว
รสิกาเริ่มปฏิบัติการเอาคืนบุษรินกับบุษยาแทนการะเกด โดยการทวงเครื่องเพชรคืนต่อหน้าเจ้าพระยารามณรงค์เดชและชรินทร์ผู้เป็นพี่ชายของการะเกด เจ้าพระยารามณรงค์เดชไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน พอรู้เข้าก็สั่งให้บุษรินคืนเครื่องเพชรให้การะเกด เพราะเครื่องเพชรชุดที่บุษรินยืมไปนั้นเป็นของนวลลออ แม่ของการะเกดที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ยิ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับสองแม่ลูกมากขึ้นไปอีก
บาดแผลในใจรุ่นพ่อแม่ที่เป็นความบาดหมางของบ้านการะเกดกับหญิงแต้ว สมัยที่พระยารามณรงค์กับท่านชายรวีโชติยังเป็นหนุ่มอยู่นั้นเคยหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน นั่นก็คือนวลลออซึ่งเป็นข้าหลวงคนสนิทของเสด็จพระองค์หญิงตำหนักริมน้ำ แต่นวลลออเลือกที่จะแต่งงานกับเจ้าพระยารามณรงค์เดช หม่อมเจ้ารวีโชติจึงประชดรักด้วยการแต่งงานกับหม่อมประภา ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนวลลออทั้งที่ไม่ได้รัก ซึ่งหม่อมประภาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าหม่อมเจ้ารวีโชติไม่ได้รักตน แต่ก็ยอมแต่งงานด้วยเพราะหม่อมประภารักหม่อมเจ้ารวีโชติมาก และนั่นก็เป็นบาดแผลในใจของหม่อมประภามาตลอด
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้หม่อมเจ้ารวีโชติโกรธแค้นเจ้าพระยารามณรงค์เดชมาก และถึงแม้ว่านวลลออจะเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่คลอดการะเกดได้ไม่นาน แต่หม่อมเจ้ารวีโชติก็ยังผูกใจเจ็บมาจนทุกวันนี้
ทางด้านท่านชายก้องก็ถูกหม่อมเจ้าหญิงแพรวพรรณราย ผู้เป็นแม่เร่งรัดเรื่องการหมั้นกับหญิงแต้ว แต่ท่านชายก้องยังไม่อยากหมั้น เพราะตอนนี้จิตใจพะวงอยู่แต่กับรสิกา จึงตอบบ่ายเบี่ยง และอ้างเสด็จพระองค์หญิงตำหนักริมน้ำ ผู้เป็นป้า
อย่างไรก็ตาม เสด็จพระองค์หญิงตำนักริมน้ำก็คัดค้านได้ไม่เต็มที่นัก เพราะการหมั้นหมายครั้งนี้เป็นคำสัญญาระหว่างพ่อของท่านชายก้อง ผู้เป็นน้องชายแท้ๆ ของตนกับหม่อมเจ้ารวีโชติ ถึงแม้ว่าพ่อของท่านชายก้องจะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่หม่อมเจ้ารวีโชติก็ยังยึดถือคำสัญญานั้นไว้อย่างเหนียวแน่น เพราะหวังสมบัติของท่านชายก้อง
รสิกากับท่านชายก้องพยายามตามหากันและกัน แต่ก็คลาดกันแบบหวุดหวิดอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ในที่สุดพรหมลิขิตก็ทำให้รสิกาและท่านชายก้องได้พบกันจนได้ ต่อมา รสิการู้ว่าท่านชายก้องเป็นว่าที่คู่หมั้นของหญิงแต้วก็เสียใจ และสับสนว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี เพราะถึงแม้ว่าตนจะเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะแย่งคนรักของใคร และยิ่งได้รู้จากพีระว่าหญิงแต้วรักท่านชายก้องมาก รสิกาก็ยิ่งลำบากใจ จากความตั้งใจเดิมที่อยากมาช่วยให้การะเกดได้พบรักกับท่านชายก้อง ก็เกิดลังเลใจเพราะสงสารหญิงแต้ว
นับวันรสิกาก็ยิ่งสร้างความแปลกใหม่และทำให้ ท่านชายก้อง ชวาลาและพีระอึ้งไปตามๆ กัน กับความคิดก้าวหน้าเกินผู้หญิงในยุคนี้ ทั้งที่เรียนแค่การบ้านการเรือน แถมยังชอบเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านตามที่ชรินทร์เคยเล่าให้ฟังอีกด้วย และที่น่าแปลกไปกว่านั้นก็คือ การะเกดมักจะดัดแปลงเครื่องแต่งกายให้มีความแปลกใหม่และล้ำสมัยอยู่เสมอเมื่อพบกัน จนสาวๆ คนอื่นมองด้วยความชื่นชอบและอยากจะแต่งตัวตามด้วย
หญิงแต้วเสียใจมากที่ท่านชายก้องเลือกการะเกด พีระเข้ามาปลอบใจ และพูดเตือนสติให้คิดทบทวนดูให้ดีว่าแท้จริงแล้วหญิงแต้วรักท่านชายก้องจริงหรือไม่ หรือแค่รู้สึกว่าต้องรักเพราะเชื่อตามคำพูดที่ผู้ใหญ่พูดกรอกหูมาตั้งแต่เด็กว่าต้องหมั้นกับท่านชายก้องเมื่อโตขึ้นเท่านั้น
หญิงแต้วเก็บคำพูดของพีระมาคิดทบทวนอย่างรอบคอบ แล้วตัดสินใจยอมถอย ไม่ใช่เพื่อท่านชายก้อง แต่เพื่อความสุขของตัวเอง เพราะไม่อยากทนทุกข์ทรมานที่ต้องอยู่กับผู้ชายที่ไม่ได้รักตนไปจนชั่วชีวิตแบบหม่อมประภา
หลังจากที่หญิงแต้วตัดใจจากท่านชายก้องได้แล้ว ก็พบว่าแท้จริงแล้วคนที่รักและหวังดีกับตนมาตลอดก็คือพีระ หญิงแต้วตกลงใจรับรักพีระ แต่หม่อมเจ้ารวีโชติและหม่อมประภารังเกียจที่พีระมีชาติกำเนิดที่ต่ำต้อย เป็นแค่ลูกมหาดเล็ก แต่ท่านชายก้องกับชวาลาก็ช่วยเหลือจนพีระกับหญิงแต้วสมหวังได้ในที่สุด
เมื่อเหตุการณ์ร้ายๆ ผ่านไป ท่านชายก้องก็ให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอการะเกด ทำให้รสิกาคิดหนัก เพราะไม่รู้ว่าตนจะอยู่ในยุคนี้ได้อีกนานแค่ไหน ท่านชายก้องรู้ความลับเรื่องรสิกากับการะเกดว่าทั้งคู่เป็นคนละคนกัน แต่ท่านชายก้องยืนยันจะแต่งงานกับรสิกาไม่ว่ารสิกาจะมีชีวิตอยู่ในยุคนี้ได้อีกนานแค่ไหนก็ตาม เพราะถ้าไม่ได้แต่งงานกับรสิกาท่านชายก้องก็จะไม่แต่งงานกับใครอีก ในคืนวันแต่งงานรสิกาได้หายตัวไปอย่างถาวร
รสิกากลับมาใช้ชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบันและไม่สามารถย้อนกลับไปสู่อดีตได้อีกแล้ว....มาร่วมลุ้นไปกับความรักของทั้งคู่ว่าพรหมลิขิตจะทำให้ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกหรือไม่
จบบริบูรณ์
บุคลิกตัวละครสำคัญ
รสิกา กาญจนรักษ์ (โรส) / ภาคปัจจุบัน รับบทโดย อามีนา กูล
- รูปร่างหน้าตาเหมือนการะเกดราวกับคนเดียวกัน เป็นครีเอทีฟโฆษณาที่คลั่งไคล้การอ่านนวนิยายและดูหนังประเภทข้ามเวลา ข้ามภพข้ามชาติมาก เรื่องไหนที่ชอบมากๆ ก็ถึงขั้นจินตนาการว่าตนคือนางเอกในนิยายหรือหนังเรื่องนั้น เป็นคนฉลาดทันคน รักความยุติธรรม ไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบ มั่นใจในตัวเองสูง เพราะชอบนิยายข้ามภพข้ามชาติจึงชอบศึกษาประวัติศาสตร์ด้วย
คณิน ชัยวัฒนากุล / ภาคปัจจุบัน รับบทโดย ธนิน มนูญศิลป์
- รูปร่างหน้าตาเหมือนกับท่านชายก้องราวกับคนเดียวกัน นิสัยกวนๆ พูดจาสนุกสนานตรงไปตรงมา แตกต่างกับท่านชายก้องทุกอย่าง
การะเกด รามณรงค์เดช / ภาคอดีต รับบทโดย อามีนา กูล
- มีนิสัยเรียบร้อย หัวอ่อน ไม่สู้คน เรียนจบจากโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย (โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง) เป็นลูกสาวของเจ้าพระยารามณรงค์เดช แต่ชอบหมกทำกับข้าวทำขนมอยู่ก้นครัว ไม่ชอบออกนอกบ้านนอกจากไปวัด
หม่อมเจ้าดนัยเทพรังสรรค์ พรหมกุล (ท่านชายก้อง) / ภาคอดีต รับบทโดย ธนิน มนูญศิลป์
- ชายหนุ่มหน้าตาดี โรแมนติก จริงใจ ชัดเจนต่อความรู้สึกของตัวเอง จบการศึกษาจากประเทศอังกฤษ พ่อเสียชีวิตตั้งแต่ท่านชายก้องยังเด็ก แม่จึงยกท่านชายก้องให้เสด็จพระองค์หญิงตำนักริมน้ำผู้เป็นป้าดูแลตั้งแต่ท่านชายยังเด็ก ท่านชายก้องจึงรักและเกรงใจป้ามากกว่าแม่
ม.ร.ว. วิไลเลขา ทินวงศ์ (หญิงแต้ว) รับบทโดย มณีรัตน์ ศรีจรูญ
- เป็นคู่หมายที่จะต้องหมั้นกันในอนาคตของท่านชายก้อง รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ผิวสีน้ำผึ้ง กิริยามารยาทงดงาม เป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้ว รักท่านชายก้องมากเพราะถูกพ่อแม่พูดกรอกหูมาตั้งแต่เริ่มเป็นสาวว่าจะต้องแต่งงานกับท่านชายก้อง เป็นคนอ่อนไหวง่าย คล้อยตามคำพูดคนอื่นได้ง่าย
พีระ เฟื่องฟุ้ง รับบทโดย เอกพงศ์ จงเกษกรณ์
- เป็นสหายคนสนิทของท่านชายก้อง ที่มักจะติดสอยห้อยตามท่านชายไปไหนมาไหนตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นก็เป็นคนขับรถส่วนตัวให้ท่านชายก้องด้วย พีระเป็นลูกชายของหมาดเล็กเก่าแก่ในวังของเสด็จพระองค์หญิงตำนักริมน้ำ ที่เสด็จพระองค์หญิงฯ ทรงชุบเลี้ยงและส่งเสียให้ไปเรียนต่อต่างประเทศพร้อมกับท่านชายก้อง พีระจึงจงรักภักดีต่อเสด็จพระองค์หญิงฯ และท่านชายก้องมาก ถึงขึ้นตายแทนได้
ชวาลา พิริยะศักดิ์ (ต้น) รับบทโดย ธนพล พีชะพัฒน์
- เป็นญาติและสหายคนสนิทของท่านชายก้อง สนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง และไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษด้วยกันด้วยจึงทำให้สนิทกันมาก เป็นคนฉลาด สุขุม ช่างสังเกต แอบรักรสิกา
เจ้าพระยารามณรงค์เดช รับบทโดย จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์
- บุคลิกน่าเกรงขาม เป็นพ่อของการะเกด เป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการ (กระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน)
ชรินทร์ รามณรงค์เดช รับบทโดย นิพัธ เจริญผล
- เป็นพี่ชายของการะเกด เรียนจบจากอังกฤษรุ่นเดียวกับท่านชายก้อง ทำงานที่กระทรวงธรรมการ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภัสสร พรหมกุล หรือ เสด็จพระองค์หญิงตำนักริมน้ำ รับบทโดย สาวิตรี สามิภักดิ์
- เป็นป้าของท่านชายก้อง รักท่านชายก้องมากแต่ไม่ค่อยชอบแม่ของท่านชายก้อง เป็นคนรุ่นเก่าที่มีหัวคิดทันสมัยเพราะชอบอ่านหนังสือ ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของบ้านเมืองและยอมรับอย่างเข้าใจ
คุณตลับ รับบทโดย สุชาดา พูนพิพัฒน์สุข
- ข้าหลวงวัยกลางคน เป็นคนสนิทของเสด็จพระองค์หญิงตำนักริมน้ำ
บุษริน รามณรงค์เดช รับบทโดย สกาวใจ พูนสวัสดิ์
- เป็นแม่เลี้ยงของการะเกด พื้นเพเดิมมาจากสำเพ็ง รูปร่างท้วม ผิวขาว ชอบรวบผมตึง ด้านหน้าตีโป่ง ติดการพนัน นิสัยโลภมาก ขี้อิจฉา ขี้โกง
บุษยา รับบทโดย บุศย์สิริ รัตนาไพศาลสุข
- เป็นลูกติดสามีเก่าของบุษริน นิสัยขี้อิจฉา โลภมาก อยากได้อยากมีของๆ คนอื่น ชอบแอบอ้างว่าเป็นลูกสาวที่แท้จริงของเจ้าพระยารามณรงค์เดช
หม่อมเจ้ารวีโชติ ทินวงศ์ รับบทโดย ตระการ พันธุมเลิศรุจี
- เป็นพ่อของหญิงแต้ว เป็นคนชอบความโอ่อ่าหรูหรา ชอบทำอะไรเกินตัว หน้าใหญ่ใจโตทั้งที่เงินในกระเป๋าไม่มี เลือกคบเฉพาะคนที่ให้ผลประโยชน์กับตนได้ และที่อยากให้ท่านหญิงแต้วได้แต่งงานกับท่านชายก็เพราะหวังสมบัติของท่านชายก้อง
หม่อมประภา ทินวงศ์ รับบทโดย สุธิตา เกตานนท์
- เป็นแม่หญิงแต้ว ชอบออกสังคมหรูหรา ติดการพนันงอมแงม
หม่อมเจ้าหญิงแพรวพรรณราย รับบทโดย ชนานา นุตาคม
- เป็นแม่ของท่านชายก้อง เป็นสาวใหญ่ที่มีใบหน้าอ่อนกว่าวัยมาก ชอบออกงานสังคมหรูหรา รักลูกแต่แสดงออกไม่เป็น
เพียงแข รับบทโดย วิมลพรรณ ชาลีจังหาญ
- นางข้าหลวงวัยกลางคน เป็นคนสนิทของหม่อมเจ้าหญิงแพรวพรรณราย
เจ้าคุณพิริยะศักดิ์ รับบทโดย กิตติพล เกศมณี
- ชายสูงวัยแต่ยังดูดีอยู่มาก เป็นพ่อของชวาลา
หญิงประดับดาว พิริยะศักดิ์ รับบทโดย ขวัญฤดี กลมกล่อม
- เป็นแม่ของชวาลา
พิมล รับบทโดย เจนิลา ปริญา แสนเมือง
- เป็นเพื่อนสนิทของหญิงแต้ว ผิวขาวซีด ชอบแต่งหน้าจัด ขี้อิจฉา ขี้นินทา สอดรู้เรื่องชาวบ้าน เป็นคู่หูกับวิภา แต่บางครั้งก็พูดเหน็บกันเอง
วิภา รับบทโดย ปุณยวีร์ ปัจจันตโฆษิต
- หญิงสาวผิวขาว หน้าตาไม่สวย ขี้นินทา สอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน เป็นคู่หูกับพิมล แต่บางครั้งก็พูดเหน็บกันเอง
จันทร์ แจ่มฟัก รับบทโดย เบญจสิริ วัฒนา
- เป็นบ่าวคนสนิทของคุณหญิงนวลลออ เลี้ยงดูการะเกดอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่คุณหญิงนวลลออเสียชีวิต
จวง แจ่มฟัก รับบทโดย กนกกาญจน์ จุลทอง
- เป็นน้องสาวของจันทร์
แช่ม รับบทโดย นฤมล นิลวรรณ
- แม่ครัวที่บ้านเจ้าพระยารามณรงค์เดช เป็นหญิงกลางคนรูปร่างอ้วน
อุ่น รับบทโดย อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์
- เป็นบ่าววัยกลางคนที่บุษรินชอบจิกหัวใช้ราวกับไม่ใช่คน อุ่นทั้งโกรธและเกลียดบุษรินมาก เพราะอดีตเคยเป็นบ่าวประจำตัวของคุณหญิงนวลลออที่เสียชีวิตไปแล้ว
เย็น รับบทโดย ดวง อัทธเสรี
- เป็นบ่าวช่างสอพลอ ชอบพูดประจบเอาใจบุษรินและบุษยา คอยช่วยสองแม่ลูกรังแกการะเกด
ม.ร.ว. เลิศลักษณา ทินวงศ์ (หญิงติ๋ว) รับบทโดย มรกต หทัยสีวงศ์
- พี่สาวคนโตของหญิงแต้ว แต่งงานแล้วแต่ชีวิตสมรสไม่ราบรื่นเพราะสามีเจ้าชู้ ใช้เงินเปลือง ทำให้ต้องมาขอเงินแม่ใช้บ่อยๆ ลึกๆ แล้วอิจฉาหญิงแต้วที่ได้รับสิ่งดีๆ จากพ่อแม่ไปหมด
ตัวละครเพิ่มเติม...ภาคปัจจุบัน
มีน รับบทโดย ปาลิกา สุวรรณรักษ์
- เป็น A. E. อยู่บริษัทเดียวกับรสิกา คบกับรสิกามาตั้งแต่อนุบาล เรียนโรงเรียนเดียวกัน มหาวิทยาลัยเดียวกัน แล้วยังมาทำงานที่เดียวกันอีก เป็นคนปากไวใจกล้า แต่งตัวจัด มั่นใจในตัวเองสูง
โอม รับบทโดย วรากร ศวัสกร
- เป็นกราฟฟิคดีไซด์อยู่บริษัทเดียวกับรสิกา เป็นผู้ชายมาดเซอร์ที่แอบรักรสิกา และพยายามจะบอกรสิกามาตลอดว่า ผู้ชายดีๆ ไม่ได้มีแต่ในนิยายแต่รสิกาก็ไม่เคยฟัง
บัว รับบทโดย สุปราณี เจริญผล
- แม่ของรสิกา แม่บ้านวัยเกษียร อดีตเป็นครูบรรณารักษ์ ชอบอ่านหนังสือทุกประเภท โดยเฉพาะวรรณคดีและนวนิยาย ชอบดูหนัง ดูละคร แต่ไม่ถึงขั้นมโนแบบรสิกา
อำพล รับบทโดย กษมา นิสสัยพันธุ์
- เป็นพ่อของรสิกา เป็นพ่อบ้านวัยเกษียร เป็นคนจริงจัง ใจร้อน พูดจาโผงผางเสียงดัง แต่รักและเกรงใจเมียมาก เมียว่ายังไงก็ว่าตามนั้นตลอด ไม่เคยขัดใจเลยซักครั้ง