กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
เครื่องบินแอร์บัสเอ380แบบที่ใช้เครื่องยนต์รุ่น Engine Alliance GP 7200 ได้รับใบรับรองความปลอดภัยในการเดินอากาศร่วมระหว่าง EASA และ FAA (joint EASA and FAA type certification) แล้วเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา
ใบรับรองความปลอดภัยในการเดินอากาศของ EASA ได้รับการลงนามจากมร.เฟร็ดเดอริค โคปิโน รองผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัยในการเดินอากาศของ EASA ก่อนทำการส่งมอบให้แก่มร. แพทริก เกวิน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายวิศวกรรมของแอร์บัส และใบรับรองความปลอดภัยในการเดินอากาศของ FAA ได้รับการลงนามที่เมืองซีแอทเทิลโดยมร. อาลี บาร์ลามี่ รองผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัยในการเดินอากาศของ FAA
การรับใบรับรองความปลอดภัยในการเดินอากาศนี้เกิดขึ้นตามหลังเพียงหนึ่งปีหลังจากที่เครื่องบินแอร์บัสเอ380แบบที่ใช้เครื่องยนต์ Rolls Royce ได้รับใบรับรองมาตรฐานการทดสอบทางการบินเบื้องต้นจาก EASA และ FAA ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2549
เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเครื่องบินเอ380 จะเป็นผู้รับมอบเครื่องบินเอ380ลำแรกที่ใช้เครื่องยนต์รุ่น Engine Alliance GP 7200 นี้ในฤดูร้อนปีพ.ศ. 2551 และสำหรับการส่งมอบเครื่องลำดับต่อๆไปจะเป็นของสายการบินแอร์ฟร๊านซ์ โคเรียน แอร์ และไอแอลเอฟซี
“การได้รับใบรับรองความปลอดภัยในการเดินอากาศร่วมระหว่าง EASA และ FAA ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการเอ380 อีกทั้งเป็นการยืนยันครั้งสุดท้ายต่อประสิทธิภาพที่ครบถ้วนบริบูรณ์ของเครื่องบินแอร์บัสเอ380แบบที่ใช้เครื่องยนต์รุ่น Engine Alliance GP 7200 หลังจากที่เมื่อเร็วๆนี้เครื่องบินสามารถผ่านการทดสอบค่าเสียงรบกวนภายนอกจากด้วยผลทดสอบที่ยอดเยี่ยมยิ่ง ทั้งหมดทำให้มั่นใจได้ว่าเอ380แบบที่ใช้เครื่องยนต์รุ่นนี้พร้อมที่จะเข้าสู่การให้บริการกับสายการบินแห่งแรกในปีหน้าได้อย่างแน่นอน” มร.มาริโอ ไฮเน็น รองประธานบริหารและหัวหน้าโครงการเอ380 กล่าวในพิธีรับมอบใบรับรองที่จัดขึ้นที่เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส
การรับใบรับรองความปลอดภัยในการเดินอากาศจากสองหน่วยงานระดับโลกนี้ คือผลสำเร็จจากการที่เครื่องบินเอ380ได้เข้าทดสอบมาตรฐานของตัวเครื่องรวมทั้งระบบการทำงาน ตามโปรแกรมที่มีความเข้มงวดอย่างครบถ้วนทุกขั้นตอนและผลลัพธ์การทดสอบยังแสดงให้ประจักษ์ถึงคุณสมบัติที่สามารถผ่านหรือแม้แต่สูงเหนือมาตรฐานการบินในทุกๆด้านของเอ380
โดยเครื่องบินแอร์บัสลำทดสอบเลขหมายการผลิตลำที่9 ซึ่งใช้เครื่องยนต์ Engine Alliance GP 7200 ได้ผ่านการทดสอบบินเกือบ 800 ชั่วโมงในสภาพการบินทั้งในระดับความสูงพิเศษ ในสภาพอากาศร้อนและในสภาพอากาศเย็น รวมทั้งการทดสอบระดับเสียงรบกวนและการทดสอบการใช้งานกับน้ำมันเกรดพิเศษ เครื่องบินเอ380 ได้แสดงให้เห็นว่ามีค่าคุณสมบัติด้านต่างๆที่ยอดเยี่ยมตรงตามที่ได้ประกาศไว้ ไม่ว่าจะเป็นระดับการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงหรือพิสัยการบิน การเผาผลาญเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมส่งผลให้ต้นทุนการบินมีความประหยัดและเพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นเอ380 ยังเป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ซึ่งมีห้องโดยสารที่เงียบกริบและสะดวกสบายมากที่สุด อีกทั้งสร้างเสียงรบกวนในระดับต่ำที่สุดเช่นกัน ทำให้สามารถผ่านเกณฑ์ด้านเสียงรบกวนที่เข้มงวดที่สุดของบรรดาท่าอากาศยานนานาชาติต่างๆได้โดยง่ายดาย ยกตัวอย่างเช่นเกณฑ์ที่ใช้กับท่าอากาศยานฮีทโธร์วในลอนดอน
ประวัติการดำเนินธุรกิจของแอร์บัสแสดงถึงความพยายามที่ยาวนานจนสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดที่มีการแข่งขันอย่างเข้มข้นและจำเป็นต้องใช้ความมุ่งมั่นในระยะยาวดังเช่นตลาดอุตสาหกรรมการบิน“ความสำเร็จนี้ต้องการมากกว่าการมีวิสัยทัศน์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงและความพร้อมที่จะลงทุนในระยะยาวล้วนแต่เป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งวันนี้แอร์บัสพร้อมที่จะให้ความมั่นใจแก่ลูกค้า พนักงาน ซับพลายเออร์ตลอดจนผู้ถือหุ้นทุกฝ่ายว่าเราจะสานต่อความสำเร็จนี้ให้ยิ่งใหญ่ รวมทั้งมีความก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการคงความสามารถทางการแข่งขันและความยอดเยี่ยมในเครื่องบินทุกๆลำของแอร์บัส” มร. ทอม เอ็นเดอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอร์บัสกล่าว
เครื่องบินเอ380 แบบที่ใช้เครื่องยนต์ Rolls Royce Trent 900 ของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ได้ให้บริการด้วยความยอดเยี่ยมในแบบเที่ยวบินรายวันระหว่างนครซิดนี่ย์และสิงคโปร์มาตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2550 เครื่องบินเอ380 มียอดคำสั่งซื้อยืนยันและคำมั่นในการสั่งซื้อรวมทั้งสิ้น 193 ลำจากลูกค้า 17 ราย