กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ไม่ถูกกระทบจากการที่ศาลปกครองสูงสุดสั่งให้ปตท.แยกและโอนสินทรัพย์และสิทธิของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยคืนให้แก่กระทรวงการคลัง
ปัจจุบัน ฟิทช์จัดอันดับเครดิตภายในประเทศของ ปตท. ระยะยาวที่ระดับ “AA+(tha)” ระยะสั้นที่ระดับ “F1+(tha)” และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ของ ปตท. ที่ระดับ “AA+(tha)” แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2550 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้ ปตท. แยกและโอนสินทรัพย์และสิทธิของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยตามขอบเขตของลักษณะทรัพย์สินและสิทธิที่ศาลได้วินิจฉัยว่าเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ ปตท. ได้รับโอนมาพร้อมกับการแปลงสภาพเป็นบริษัทจำกัดมหาชนคืนให้แก่กระทรวงการคลัง ซึ่งกระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง และ ปตท. ได้มีการประชุมหารือและเสนอแนวทางการโอนคืนสินทรัพย์และสิทธิเหล่านั้น เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา และเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการในการแยกและโอนคืนสินทรัพย์ โดย ปตท. ต้องโอนสินทรัพย์และสิทธิซึ่งได้แก่ที่ดินจากการเวนคืน สิทธิในการใช้ที่ดินของเอกชนเพื่อการวางท่อโดยใช้อำนาจของการปิโตรเลียมฯ รวมถึงท่อก๊าซธรรมชาติและอุปกรณ์ที่อยู่ในที่ดินดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่าตามบัญชี ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปตท. มีสิทธิในการเช่าและใช้ท่อก๊าซฯและอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นเวลา 30 ปี โดยจะต้องจ่ายค่าเช่าเป็นรายปีในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของรายได้จากค่าผ่านท่อส่วนดังกล่าว ทั้งนี้ จากการประเมินเบื้องต้นของ ปตท. คาดว่า ปตท.ต้องจ่ายค่าเช่ารายปีคิดเป็นเงินประมาณ 200-300 ล้านบาทต่อปี (โดยคิดจากส่วนแบ่งรายได้ที่ 5%) และ ปตท. จะต้องจ่ายค่าเช่าย้อนหลัง ภาษี และเบี้ยปรับตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2544 จนถึงวันที่โอนสินทรัพย์ดังกล่าวคืนซึ่งได้มีการประเมินเบื้องต้นเป็นเงินไม่เกิน 2 พันล้านบาท รวมถึงภาระภาษีต่างๆ ในการโอนสินทรัพย์ เป็นเงินอีกประมาณ 2 พันล้านบาท
ฟิทช์กล่าวว่าผลกระทบทางการเงินจากเรื่องดังกล่าวมีค่อนข้างน้อยและไม่น่ามีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินที่แข็ง แกร่งของ ปตท. โดย ปตท. มีสภาพคล่องที่สูงและมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งซึ่งสามารถที่จะรองรับการชำระค่าใช้จ่ายดังกล่าว นอกจากนี้ค่าเช่าที่ ปตท. จะต้องชำระในการใช้ท่อก๊าซฯและอุปกรณ์ดังกล่าวไม่น่าจะกระทบต่ออัตราผลตอบแทนจากธุรกิจท่อก๊าซฯอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 ปตท. มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ 1.1 แสนล้านบาท และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในทรัพย์สินและหนี้สินดำเนินงาน (Funds from Operation) อยู่ 8.8 หมื่นล้านบาท และมีเงินสดและทรัพย์สินที่ใกล้เคียงเงินสดอยู่ 8.2 หมื่นล้านบาท ในด้านการดำเนินงาน ฟิทช์เชื่อว่า ปตท. จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจก๊าซธรรมชาติต่อไป โดย ปตท.ได้รับประโยชน์จากการเป็นผู้ดำเนินการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ การจัดหาและการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเพียงรายเดียวในประเทศไทย เนื่องจากปตท.มีเครือข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่ครอบคลุมพื้นที่การใช้ก๊าซธรรมชาติเพียงรายเดียวในประเทศ และมีสัญญาการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติระยะยาวกับผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ทุกรายในประเทศ นอกจากนี้เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะทำให้ความสำคัญของปตท.ในฐานะบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแห่งชาติลดลง
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
ติดต่อ
เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, วสันต์ ผลเจริญ, Vincent Milton +662 655 4755
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน