กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เดินหน้าแผนการลงทุนโครงการ Solar Rooftop คาดไตรมาส 3/61 ติดตั้งแล้วเสร็จเพิ่มอีก 2.6 เมกะวัตต์ ล่าสุดคว้า Electrolux ติดตั้งแผง solar rooftop จำนวน 0.50 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานของ Electrolux ที่จังหวัดระยอง และจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ พร้อมส่งซิกซุ่มเจรจาเพิ่ม อีก 10 เมกะวัตต์ ระบุเบื้องต้นคาดเซ็นสัญญาปีนี้ทั้งหมด
นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคแบบครบวงจรแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย ได้แก่ ธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบ ผลิตและจำหน่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรม การบริหารจัดการน้ำเสีย และธุรกิจพลังงาน โดยลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าการติดตั้งและบริการแบบครบวงจรในโครงการ Solar Rooftop อย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายในไตรมาส 3/2561 นี้จะมีการติดตั้ง และบริการแล้วเสร็จได้ทั้งสิ้นเพิ่มอีก 2.6 เมกะวัตต์ และล่าสุดได้มีการเซ็นสัญญาร่วมกับบริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด ในการติดตั้งแผง solar rooftop จำนวน 0.50 เมกะวัตต์ ที่โรงงานของElectrolux ซึ่งตั้งอยู่ในเขตประกอบการดับบลิวเอชเอระยอง ซึ่ง Electrolux จะประหยัดพลังงานตลอดระยะสัญญา 20 ปี โดยไม่มีการลงทุนหรือการบริหารจัดการแต่อย่างใด
นายคริส ดินีน ผู้จัดการโรงงาน บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า Electrolux นโยบายที่เน้นความสำคัญด้านการประหยัดพลังงานและการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้ทำการลงทุนติดตั้งระบบ Solar Rooftop ขนาด 0.1 เมกะวัตต์ ไปแล้วก่อนหน้านี้โดยใช้งบประมาณของ Electrolux เอง ต่อมาทราบถึงบริการของ WHAUP ในการติดตั้งและดูแลรักษาระบบ Solar Rooftop โดย WHAUP จะลงทุนให้ทั้งหมด และขายไฟคืนให้กลับ Electrolux จึงตัดสินใจใช้บริการของ WHAUP ทำให้สามารถติดตั้ง Solar เพิ่มอีก 0.5 เมกะวัตต์ เป็น 0.6 เมกะวัตต์ตามเป้าหมายเชิงนโยบายที่วางไว้ โดยที่ Electrolux ไม่ต้องมีภาระในการลงทุนหรือจัดการดูแลระบบแต่อย่างใด
นอกจากนั้น นายคริส กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ติดตั้งระบบ Solar Rooftop แล้วเสร็จ Electrolux จะมีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมจากการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์จากภาคการผลิตไฟฟ้าได้ถึงประมาณ 400 ตันต่อปีตลอดอายุโครงการ
ปัจจุบัน WHAUP ยังอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอและนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ให้ความสนใจโครงการ Solar Rooftop และคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาได้ในปีนี้ อีกประมาณ 10 เมกะวัตต์ จากเดิมที่ลูกค้า เริ่มทยอยจ่ายไฟฟ้าไปแล้ว 9 โครงการ จำนวน 4.8 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมให้ความสนใจพลังงานที่เป็น Clean Energy ที่สามารถช่วยลดต้นทุน ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม อันถือเป็นโครงการนำร่องที่ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ สามารถนำไปเป็นแบบอย่างได้
" ทาง WHAUP มีการให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่การ ลงทุนให้ทั้งหมด ออกแบบ ดำเนินการวิศวกรรมติดตั้งและก่อสร้าง และขอใบอนุญาต ให้จนผลิตไฟฟ้าได้สมบูรณ์ รวมทั้งเดินระบบ และซ่อมบำรุงให้ตลอดอายุสัญญา ด้วยทีมวิศวกรที่มีความชำนาญเฉพาะทาง และมีประสบการณ์ให้บริการลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมในด้านพลังงานและสาธารณูปโภคมายาวนาน ถือเป็นจุดแข็งของบริษัทที่ทำให้เราสามารถช่วยออกแบบโปรแกรมการประหยัดพลังงานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าจากบริการ Solar Rooftop ของเรา" นายวิเศษ กล่าว