กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--ไอ แอมม์ ซูเปอร์ พีอาร์
แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน โดยการสนับสนุนของ สสส. จับมือร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง ชูยุทธศาสตร์ใช้ 'การอ่าน'เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเด็กในช่วงปฐมวัยให้ได้รับการพัฒนาจากครอบครัวและผู้ใกล้ชิดอย่างเหมาะสม โดยเดินหน้าพัฒนาคุณครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นนักสื่อสารสุขภาวะ
ส่งต่อองค์ความรู้เรื่องการอ่านเพื่อสร้างสุขภาวะไปสู่ผู้ปกครองให้ครอบคลุมทั่วทั้งจังหวัดต่อไป หวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในสังคมยุคปัจจุบันเช่น ความก้าวร้าว รุนแรง เสพสื่ออย่างไม่รู้เท่าทัน หันไปหาสิ่งเสพติดเหล้า บุหรี่ ฯลฯ ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยจากการศึกษาพบว่า สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาการขาดความรักความอบอุ่นในครอบครัว การได้รับการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม ครอบครัวหย่าร้าง มีการใช้ความรุนแรงทั้งคำพูดและการกระทำในครอบครัว
สุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวว่า "เราเชื่อว่าช่วงปฐมวัยเป็นช่วงสำคัญที่สุดในการสร้างมนุษย์ที่มีความเกื้อกูล สร้างการเรียนรู้เพื่อก้าวไปสู่การเป็นพลเมืองเด็กที่มีคุณภาพ การอ่านเป็นเครื่องมือกลางที่จะเชื่อมโยงคนที่แวดล้อมเด็กทั้งหน่วยสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ศึกษาธิการจังหวัด คุณครู รวมไปถึงครอบครัวมาทำงานเชื่อมร้อยกัน เกิดเป็นระบบสื่อสร้างสรรค์เพื่อเด็กเล็กเพื่อนำไปสู่การพัฒนาสุขภาวะเด็กอย่างรอบด้านได้ในที่สุด"
อุบล ทองสลับล้วน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า "การทำงานของ สสส. เรื่องการอ่านที่ผ่านมา ทำให้เกิดความรู้สึกสนใจ มองเห็นแง่มุมของการใช้การอ่านมาเป็นเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาเด็กปฐมวัยในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกิดความรักความอบอุ่นในครอบครัวผ่านการกอดลูก เล่านิทานกับลูก แต่ด้วยข้อจำกัดหลายด้าน ทำให้เราไม่สามารถลงไปทำ กิจกรรมกับทุกครอบครัวของเด็ก ๆ ได้ จึงมุ่งเป้าไปที่การพัฒนาศักยภาพของคุณครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้กลายเป็นนักสื่อสารสุขภาวะแทน เพื่อหวังผลให้คุณครูเป็นสื่อกลางนำเรื่องการอ่านไปถ่ายทอดต่อให้กับผู้ปกครองของเด็ก ๆ แล้วนำไปใช้ในครอบครัวต่อไป"
สำหรับกระบวนการพัฒนาศักยภาพคุณครู ศพด. จ.พัทลุง แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. ได้สนับสนุน Book Bank ชุดนิทานสร้างสรรค์จาก สสส. และองค์ความรู้ 'เทคนิคการใช้หนังสือภาพ หนังสือนิทาน และกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน' โดยมี อ.ชัยฤทธิ์ ศรีโรจน์ฤทธิ์ บรรณาธิการสำนักพิมพ์ Hello Kids มาร่วมถ่ายทอดความรู้และเทคนิคให้กับคุณครู
"เราเชื่อว่าเมื่อเด็ก ๆ ได้เปิดจินตนาการเต็มที่กับการฟังนิทานแล้ว คุณครูไม่ควรหยุดการเรียนรู้เด็กไปพร้อมกับนิทน การทำกิจกรรมต่อเนื่องจากนิทานจะกระตุ้นการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องให้กับเด็ก" อ.ชัยฤทธิ์ ศรีโรจน์ฤทธิ์ กล่าว "สิ่งที่เราให้กับครูมีทั้งเทคนิค แรงบันดาลใจ ทำให้ครูมองเห็นว่านิทาน 1 เล่มสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กได้มหาศาล เป็นการตอกย้ำให้คุณครูมีกำลังใจ เชื่อในพลังสร้างสรรค์ของตัวเอง นอกจากคุณครูจะนำไปใช้ในห้องเรียนกับเด็ก ๆ แล้ว คุณครูจะยังเป็นสื่อกลางไปบอกพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็ก ๆ ต่อ ให้นึกภาพว่าครู 1 คนไปบอกต่อพ่อแม่เด็กอีก 40 คน...ชุดหนังสือนิทาน 9 เล่มจาก สสส. ที่เขาได้รับไป หนังสือนิทาน 1 เล่มไม่ได้ใช้แค่ครั้งเดียว มันถูกใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีก อ่านแล้วอ่านอีก เพราะฉะนั้นคุณค่ามันจึงถูกส่งต่อไปอย่างมากมายมหาศาล"
ในส่วนของ ยินดี รอดพิรุณ คุณครูจาก ศพด.บ้านโคกสูง จ.พัทลุง ผู้เข้าร่วมอบรมในโครงการนี้ได้กล่าวถึงความรู้สึกว่า "การอ่านนิทานเป็นเรื่องที่จำเป็นมากสำหรับเด็กปฐมวัย สามารถช่วยปรับพฤติกรรมเด็ก ๆ ได้ในหลาย ๆ ด้าน ความรู้ที่เราได้จากการอบรม เรานำไปสอนต่อให้กับผู้ปกครองด้วย เพราะที่ศูนย์จะมีกิจกรรมให้ผู้ปกครองสลับกันเข้ามามีส่วนร่วมในการเล่านิทานให้เด็ก ๆ ฟังช่วงเย็นก่อนกลับบ้านด้วย"
สำหรับ นฤวรรณ ณสุยสกุล คุณครู ศพด.ตำบลดอนทราย จ.พัทลุง กล่าวว่า "ดีใจที่มีกิจกรรมโครงการแบบนี้ให้กับคุณครู ความรู้และชุดหนังสือนิทานที่ได้มา คุณครูก็จะนำไปแบ่งปันและถ่ายทอดต่อให้กับทั้งผู้ปกครอง หมออนามัย อสม. ที่จะผลัดเปลี่ยนกันมาเป็นอาสาสมัครเล่านิทานให้เด็ก ๆ ฟัง เป็นการส่งเสริมเรื่องของการกิน กอด เล่น เล่า ที่จะนำไปสู่การส่งเสริมพัฒนาการที่ดีให้กับเด็ก ๆ ของเราต่อไป"