กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
จากข้อมูลทางสถิติการจดทะเบียนคนพิการทั่วประเทศ ปี พ.ศ.2560 พบผู้พิการจำนวนกว่า 1,800,000 คน (ร้อยละ 2.72 ของประชากรทั้งประเทศ) และจากความพิการทั้ง 7 ด้าน พบเป็นผู้ที่มีความพิการทางการเคลื่อนไหวมากที่สุดจำนวนกว่า 870,000 คน (ร้อยละ 48.76) และจากข้อมูลรายงานการจ้างงานและการประกอบอาชีพของผู้พิการ พบมีผู้พิการในวัยทำงาน จำนวนกว่า 800,000 คน เป็นผู้พิการที่ประกอบอาชีพร้อยละ 33.18 ผู้พิการที่ไม่ได้ประกอบอาชีพร้อยละ 40.3 และผู้พิการที่ประกอบอาชีพไม่ได้ร้อยละ 26.51 นอกจากนี้จากการสำรวจความต้องการมีงานทำ พบผู้พิการจำนวนมากในหลายภูมิภาคต้องการประกอบอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า แต่ปัญหาที่พบคือ การใช้งานจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรม ที่ส่วนมากไม่รองรับกับความพิการทางร่างกาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ผศ.ศรัทธา แข่งเพ็ญแข ผศ.ลักขณา จาตกานนท์ และ ผศ.จุฑาทิพ รัตนะนราพันธ์ จากคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร คิดออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์ช่วยเย็บ ที่ติดตั้งกับจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรมชนิดเข็มเดี่ยว ฝีเข็มกุญแจ สำหรับผู้พิการขา เพื่อช่วยส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ ให้สามารถประกอบอาชีพด้านการตัดเย็บเสื้อผ้า หรือทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมเสื้อผ้าได้ รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมสามารถนำไปดัดแปลงจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรม เพื่อรับผู้พิการเข้าทำงานได้ ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
ผศ.ศรัทธา แข่งเพ็ญแข หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า การทำงานของอุปกรณ์ช่วยเย็บ แบ่งเป็น 2 ระบบ คือ ชุดขับเคลื่อนคันส่งระบบคลัชมอเตอร์ และชุดระบบการยกเท้าทับผ้า การใช้งานเพียงผู้พิการใช้หน้าอกออกแรงดันชุดขับเคลื่อน เพื่อให้เครื่องจักรทำงานเย็บ และใช้มือหรือข้อศอกดัน เพื่อบังคับระบบการยกเท้าทับผ้า โดยมือทั้งสองข้างสามารถหยิบจับชิ้นงานได้อย่างปกติ ทั้งนี้จากการทดสอบการใช้งานกับผู้พิการขาที่ต้องนั่งรถเข็นวีลแชร์ภายในศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการพระประแดง และศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน ภาค 1 จังหวัดปทุมธานี โดยให้ผู้พิการเย็บผ้ากันเปื้อนในเวลา 3 สัปดาห์ เปรียบเทียบกับคนปกติ พบว่า ผู้พิการขาสามารถเย็บผ้ากันเปื้อนได้จริง โดยประสิทธิภาพในการผลิตจากสัปดาห์ที่ 2 และ 3 เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยตามระยะเวลาในการทำงาน และจากการทดสอบ T-test ค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพคนพิการและคนปกติ พบว่าประสิทธิภาพการผลิตของคนพิการและคนปกติไม่แตกต่างกัน
"ทีมงานวิจัยหวังว่า ผลงานวิจัยนี้ จะช่วยส่งเสริมให้คนพิการขา มีโอกาสทำงานด้านการตัดเย็บเสื้อผ้า ทั้งอาชีพอิสระและการทำงานโรงงานอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ซึ่งทำให้ผู้พิการได้รับสิทธิเท่าเทียมในการใช้ชีวิตและการประกอบอาชีพ ส่วนสถานประกอบการผลิตเสื้อผ้าอุตสาหกรรมสามารถนำอุปกรณ์ไปดัดแปลง เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้พิการให้สามารถใช้งานได้ และสามารถรับผู้พิการเข้าทำงานตามความเหมาะสม ทำให้ผู้พิการสามารถทำงานหาเลี้ยงชีพ มีงานทำมีรายได้ โดยไม่คิดว่าตนเองไร้ความสามารถ เพียงสังคมยังเปิดโอกาสให้กับพวกเขาเหล่านั้น" ผศ.ศรัทธา แข่งเพ็ญแข กล่าว
ด้าน นางสาวฉวี คงใย ครูฝึกอาชีพสงเคราะห์ระดับ 3 ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ พระประแดง กล่าวว่า ภายในศูนย์จะสอนตั้งแต่การเย็บผ้าเบื้องต้น จนถึงการสร้างแบบ และตัดเสื้อผ้าอย่างง่าย รวมถึงการดูแลรักษาจักรเย็บผ้า ทั้งนี้จักรเย็บผ้าอุตสาหกรรมสำหรับคนพิการขาที่มหาวิทยาลัยฯ มอบให้กับทางศูนย์ฯ เพื่อให้นักเรียนผู้พิการได้ฝึกฝนอาชีพนั้น ใช้งานง่าย เพียงใช้หน้าอกดันชุดบังคับเท่านั้น นับว่าสามารถทำให้ผู้พิการขาได้ฝึกฝนเพื่อนำไปประกอบอาชีพอิสระ หรือสามารถทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ที่รับผู้พิการเข้าทำงาน ทำให้ผู้พิการได้มีอาชีพหรือมีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากยิ่งขึ้น
ส่วน นางสาวเสนาะ สัญญนาค อายุ 48 ปี ผู้พิการขาอ่อนแรง นักเรียนศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ พระประแดง กล่าวว่า ปกติไม่ได้ประกอบอาชีพใด แต่เมื่อเข้ามาฝึกอบรมหลักสูตรการเย็บจักร ที่ศูนย์ฝึกอาชีพ ได้ทดลองใช้จักรเย็บผ้าสำหรับผู้พิการ รู้สึกใช้งานง่ายและสะดวก จะนำความรู้ที่ได้จากการฝึกฝนไปประกอบอาชีพ ทั้งนี้อยากให้มีหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ เข้ามาสนับสนุนทุนอุปกรณ์จักรเย็บผ้า เพื่อให้ผู้พิการสามารถนำไปประกอบอาชีพอิสระต่อไปได้
ทั้งนี้ล่าสุดผลงานวิจัยดังกล่าวได้นำไปจัดแสดงในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2561 (Thailand Research Expo2018) ระหว่างวันที่ 9-13 สิงหาคม 2561 ณ ห้องบางกอกคอนเวนชัน โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้หัวข้องานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสังคม ผู้สนใจหรือหน่วยงานที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผศ.ศรัทธา แข่งเพ็ญแข โทรศัพท์ 085-153-8351