กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ระดับน้ำ ในแม่น้ำสายหลัก ทั้ง 3 สาย แม่น้ำโก-ลก แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำบางนรา มีระดับน้ำสูงและน้ำไหลเข้าท่วม ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 42,272 คน 10,867 ครัวเรือน เจ้าหน้าที่สำนักงาน ปภ. จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา ได้เร่งอพยพผู้ประสบภัยไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2550 ได้เกิดฝนตกหนัก
ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำโก-ลก แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำบางนรา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มสูงขึ้นและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร แล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา ใน 25 อำเภอ 128 ตำบล 512 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 4 คน สูญหาย 1 คน ราษฎรเดือดร้อน 82,074 คน 19,046 ครัวเรือน บ้านเรือนราษฎรเสียหายบางส่วน 4 หลังและเสียหายทั้งหลัง 2 หลังพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 17,611 ไร่ ถนน 286 สาย สะพานและคอสะพาน 28 แห่ง ชำรุดและเสียหายใช้การไม่ได้ รวมทั้งโรงเรียน 15 แห่ง และสถานที่ราชการ 6 แห่ง ส่วนความเสียหายอื่นๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ
สำหรับการให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้น ศูนย์ ปภ.เขต 12 สงขลา และสำนักงาน ปภ.จังหวัดนราธิวาส และยะลา ได้นำเรือท้องแบน 31 ลำ รถบรรทุกขนาดเล็กและใหญ่ 8 คัน เข้าอพยพผู้ประสบภัยในพื้นที่ จำนวน 1,194 คน เพื่อไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมนำข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องอุปโภค บริโภค น้ำดื่มสะอาด ถุงยังชีพ จำนวน 25,374 ชุด ยารักษาโรค 200 ชุด รวมทั้ง เต็นท์ยกพื้นสำหรับทำเป็นที่พักชั่วคราว 10 หลัง เครื่องนอน1,510 ชุด ผ้าห่ม 3,310 ผืน เสื้อกันหนาว 100 ตัว ผ้าถุงโสร่ง 200 ผืน และหญ้าแห้งสำหรับสัตว์เลี้ยง 30,000 กิโลกรัม แจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย อีกทั้งสนับสนุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 1 เครื่อง เครื่องสูบน้ำ 22 เครื่อง เพื่อระบายออกนอกพื้นที่ รวมทั้ง วัสดุ อุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่ 74 คน อปพร. 95 นาย เพื่อช่วยเหลือ ฟื้นฟูพื้นที่ และสิ่งสาธารณะประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งได้ประสานให้จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน พ.ศ.2550 ( 50 ล้านบาท )
นายอนุชา ยังกล่าวเตือนอีกว่า ในระยะนี้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ตั้งแต่จังหวัด สุราษฎร์ลงไป ทำให้มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ในระหว่างวันที่ 20-23 ธันวาคม 2550 จึงแจ้งเตือนไปยังศูนย์ ปภ. เขต 11 สุราษฎร์ธานี และศูนย์ ปภ.เขต 12 สงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือไว้ให้พร้อม ใช้งาน เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เพิ่มความระมัดระวังจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้
ส่วนชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือด้วย สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานและให้การช่วยเหลือ โดยด่วนต่อไป