กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
วันนี้ (23 ส.ค.61) เวลา 08.30น. นายมานิตย์ สุธาพร ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการซ้อมแผนฉุกเฉินกรณีการจับตัวประกัน (SEMEX – 18) ประจำปี 2561 เพื่อให้ทุกส่วนงานเตรียมพร้อมที่จะรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความมั่นใจในด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ โดยมี นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นางภาระณี วรรธโนทัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานมาตรฐานท่าอากาศยานและการบิน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเข้าร่วมชมการฝึกซ้อม ณ บริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้จัดให้มีการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 82 เรื่อง ระบบการจัดการด้านนิรภัยสนามบิน และแผนรักษาความปลอดภัยในการบินพลเรือนแห่งชาติ (NATIONAL CIVIL AVIATION SECURITY PROGRAMME - NCASP) รวมถึงข้อเสนอแนะขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้บริการในมาตรการการรักษาความปลอดภัย และความปลอดภัยของท่าอากาศยานอย่างสูงสุด การฝึกซ้อมฯ จัดขึ้นในวันที่ 23 สิงหาคม 2561 ระหว่างเวลา 08.00 – 12.00 น. ณ บริเวณอาคารผู้โดยสารชั้น 4
นายศิโรตม์ กล่าวว่า สำหรับการฝึกซ้อมตามแผนฉุกเฉินของ ทสภ. ในปีนี้ เป็นการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินเต็มรูปแบบ ประจำปี 2561 กรณีการจับตัวประกัน ทั้งนี้ การฝึกซ้อมดังกล่าว เป็นการฝึกซ้อมการปฏิบัติร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล กองบัญชาการกองทัพไทย สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลบางพลีและโรงพยาบาลอื่นๆ ที่มี MOU กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการฝึกซ้อมในครั้งนี้ด้วย ซึ่งการฝึกซ้อมดังกล่าว จะทำให้หน่วยงาน ทสภ. และหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องได้เรียนรู้ขั้นตอนการปฏิบัติที่ถูกต้อง สามารถควบคุมสั่งการ ประสานงานร่วมกันในการรับมือกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นจริง และมีการปฏิบัติงานร่วมกันแบบบูรณาการ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัย ทสภ.