ฟอร์ติเน็ตขึ้นอันดับ 1 ไตรมาส 3 ปี 2007 ในฐานะผู้นำตลาด UTM จากผลสำรวจของไอดีซี

ข่าวทั่วไป Friday December 21, 2007 10:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--At Your Service
Fortinet? ผู้บุกเบิกและผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยแบบหลายระดับการป้องกัน (UTM) ชั้นนำ — เผยผลการสำรวจจากไอดีซีประจำไตรมาส 3 ปี 2007 ว่า ฟอร์ติเน็นได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่เป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยแบบหลายระดับการป้องกันหรือ UTM ที่มีรายได้มากเป็นอันดับ 1 และเป็นผู้นำการผลิตของตลาด UTM ในตลาดมูลค่าระหว่าง 10,000 — 249,000 เหรียญสหรัฐ และ 25,000 — 499,000 เหรียญสหรัฐ ข้อมูลจากไอดีซียังเปิดเผยอีกว่าฟอร์ติเน็ตน่าจะมีอัตราการเติบโตทางด้านรายได้และกำลังการผลิตขึ้นไปอีกสำหรับผลิตภัณท์ในกลุ่ม UTM ระดับบน โดยประมาณการไว้ที่ 100,000 — 2,499,000 เหรียญสหรัฐ จากการจัดจำหน่ายในองค์กรขนาดใหญ่และผู้ให้บริการต่างๆ
ข้อมูลของไอดีซีระบุว่า
ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำตลาด UTM โดยรวมด้านรายได้ประจำไตรมาส 3 ปี 2007
ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำในตลาดเอเชีย แปซิฟิค และยุโรปตะวันตก
ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำอันดับ 1 ในฐานะผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ UTM สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าระหว่าง 10,000 — 249,000 เหรียญสหรัฐและ 25,000 — 499,000 เหรียญสหรัฐโดยดูจากมูลค่าการจัดจำหน่ายและจำนวนสินค้า
ฟอร์ติเน็ตยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่องไปในผลิตภัณท์ระดับบนที่มีมูลค่าระหว่าง 100,000 — 2,499,000 เหรียญสหรัฐจากมูลค่าการจัดจำหน่ายสินค้า
สำหรับในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค นั้น ฟอร์ติเน็ตขึ้นเป็นผู้นำตลาดในหลายๆประเทศ ดังรายงานสรุปจากไอดีซี
ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำตลาดโดยรวมสำหรับผู้จัดจำหน่ายทั่วโลกของผลิตภัณท์ UTM ใน เกาหลี อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
ในฮ่องกงฟอร์ติเน็ตจัดเป็นผู้นำสำหรับตลาด UTM ระดับบนมีมูลค่าระหว่าง 10,000-249,000 เหรียญสหรัฐ และในตลาดระดับล่างที่มีมูลค่าการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 1,000-29,000 เหรียญสหรัฐ
ที่อินเดียฟอร์ติเน็ตเป็นทั้งผู้นำและผู้จัดจำหน่ายเพียงรายเดียวที่ติดอันดับตลาดบนที่มีมูลค่าระหว่าง 25,000 — 499,000 เหรียญสหรัฐ และยังเป็นผู้นำตลาด UTM ในระดับองค์กรทั่วไปมีมูลค่าการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 10,000-249,000 เหรียญสหรัฐ
ในประเทศจีนฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำทั้งตลาดที่มีมูลค่าการจัดจำหน่ายที่ 10,000 -249,000 เหรียญสหรัฐและ 25,000-499,000 เหรียญสหรัฐ
ในเกาหลีฟอร์ติเน็ตติดอันดับผู้นำตลาดล่างที่มีมูลค่าอยู่ที่ 0-900 เหรียญสหรัฐและ 3,000 — 59,000 เหรียญสหรัฐ รวมทั้งตลาดขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 10,000 — 249,000 เหรียญสหรัฐ จากยอดรายได้ทั้งหมดและการจัดส่งสินค้าโดยผู้จัดจำหน่ายทั่วโลก
ในมาเลเซียฟอร์ติเน็ตเป็นผู้นำทั้งตลาดระดับกลางและระดับบน โดยมีมูลค่าการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 6,000- 9,000 เหรียญสหรัฐ ที่ตลาดระดับกลางและ25,000 — 499,000 เหรียญสหรัฐ ในตลาดระดับบน
สำหรับสิงคโปร์ฟอร์ติเน็ตจัดว่าเป็นผู้นำตลาดระดับบนที่มีมูลค่าการจัดจำหน่ายอยู่ที่ 10,000 — 249,000 เหรียญสหรัฐ
ในไต้หวันฟอร์ติเน็ตยังคงครองตำแหน่งผู้นำทั้งตลาดระดับล่าง องค์กรขนาดใหญ่ และตลาดระดับบน ด้วยมูลค่าการจัดจำหน่ายที่ 0-900 เหรียญสหรัฐ 25,000 — 499,000 เหรียญสหรัฐ และ50,000 — 999,000 เหรียญสหรัฐ ตามลำดับ
“ที่ผ่านมา UTM ได้รับการยอมรับในเอเชียแปซิฟิคทั้งตลาดระดับเล็กและระดับกลาง และเรายังได้เล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตของตลาดขนาดใหญ่ที่ให้การยอมรับในโซลูชั่น แบบ UTM ของฟอร์ติเน็ตมากยิ่งขึ้น” มิสเตอร์เยน แอนเดอสัน รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าว “เรามีความยินดีมากที่ได้ทราบว่าความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาของเราในการพัฒนาไปสู่ตลาดขนาดใหญ่ได้รับการยอมรับ มีการเติบโตมากขึ้นและยังช่วยให้เรามีโอกาสเข้าไปมีส่วนแบ่งในตลาดมากขึ้น”
ไอดีซี กำหนดให้อุปกรณ์ในการรักษาความปลอดภัยแบบ UTM นั้นต้องรวบรวมทุกคุณสมบัติที่ระบบรักษาความปลอดภัยควรจะมีไว้ในอุปกรณ์ตัวเดียว รวมไว้ในเครือข่ายไฟล์วอลล์ ,การป้องกันเครือข่าย ,ปกป้อง IDP, แอนตี้ไวรัส เกตเวย์ ฟอร์ติเน็ตได้พัฒนาผลิตภัณท์ Unified Threat Management หรือ UTM ไปสู่ความสำเร็จด้วย ระบบรักษาความปลอดภัยแบบหลายระดับชั้นของ FortiGate ด้วย 8 ระดับการปกป้องที่อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยจำเป็นต้องมีและบริการที่ครอบคลุมไม่ว่าจะ firewall, ต่อต้านไวรัส, เครือข่ายส่วนตัวแบบเสมือน (VPN), การปกป้องและป้องกัน (IPS), ต่อต้านสแปม, กรองเนื้อหาในเว็บไซด์ และ traffic shaping รวมไว้ในผลิตภัณท์ตระกูลเดียวกันหรือประกอบกันเป็น UTM โซลูชั่น
“การที่ตลาด UTM ได้แผ่ขยายไปยังธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการการรักษาความปลอดภัย โดยที่มีการจัดการและต้นทุนที่คุ้มค่า สามารถจัดการกับวิกฤตการณ์ด้านความปลอดภัยได้รวมไว้ด้วยกันในอุปกรณ์เดียวกัน” เคน เซี๊ยะ ผู้ก่อตั้ง, ประธานบริษัท และ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) ฟอร์ติเน็ต กล่าว “ข้อมูลล่าสุดของไอดีซีชี้ให้เราเห็นยอดรายได้ของตลาด UTM โดยเฉพาะอัตราการเติบโตในไตรมาส 3 ได้เป็นอย่างดี ฟอร์ติเน็ตสามารถเข้าไปถือครองสัดส่วนในตลาดมากขึ้น นั้นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงที่โซลูชั่นแบบ UTM สามารถเข้าไปช่วยปกป้องได้ถึงแกนของเครือข่ายและรวมไปถึงสำนักงานสาขา ด้วยการยอมรับความสามารถของโซลูชั่นจากฟอร์ติเน็ต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ