SAMART จับมือ สทน. เตรียมพร้อมเดินหน้า รุกธุรกิจ “เทคโนโลยีนิวเคลียร์”

ข่าวเทคโนโลยี Friday December 21, 2007 11:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--สามารถคอร์ปอเรชั่น
SAMART ตอกย้ำความเป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างครบวงจร (Technology Company) ล่าสุดประกาศรุกธุรกิจใหม่ ด้าน “เทคโนโลยีนิวเคลียร์” จับมือ สทน.ร่วมกันเรียนรู้ และพัฒนาในการใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในการขยายสู่ธุรกิจใหม่ๆที่มุ่งเน้นเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า อาทิเช่น อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมด้านอาหาร และอุตสาหกรรมด้านอัญมณี
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัทสามารถในการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมเทคโนโลยีรอบด้าน ไม่จำกัดเพียงแค่ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม บริษัทฯ จึงได้ศึกษาและวางแผนที่จะเข้าสู่ธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ดังนั้นการเซ็นสัญญาด้านการร่วมมือในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ระหว่างบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของภาคเอกชนที่ร่วมมือกับภาครัฐอย่างเป็นทางการ ภายใต้ความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการเพิ่มมูลค่าให้แก่อุตสาหกรรมด้านการส่งออกเพื่อนำรายได้เข้าสู่ประเทศ จึงถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ “สามารถ” ในการในเข้าสู่ธุรกิจด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์
สำหรับแนวทางการร่วมมือกันในครั้งนี้ ในส่วนของสทน.จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนทางด้านวิชาการ ด้านเทคโนโลยี และด้านการพัฒนาบุคคลากร ให้มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ในส่วนของบริษัทฯ จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ พร้อมให้คำปรึกษาและความรู้ด้านธุรกิจ การลงทุน การตลาด ในการวางแผนในแต่ละโครงการที่ตกลงร่วมกันเพื่อการลงทุน ร่วมลงทุน หรือนำไปใช้ในเชิงสาธารณประโยชน์และเชิงพาณิชย์ โดยมีขอบเขตโครงการที่จะร่วมมือกัน ได้แก่ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมด้านอาหาร อุตสาหกรรมด้านอัญมณี และในอุตสาหกรรมอื่นๆตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน
“บริษัทฯมองเห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจเทคโนโลยีนิวเคลียร์ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมส่งออกที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในการฉายรังสี ซึ่งบริษัทฯมีแผนจะสร้างโรงงานและดำเนินการด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เพื่อให้ประเทศไทยได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ ที่ต้องใช้การฉายรังสีเพื่อฆ่าเชื้อในเวชภัณฑ์ เภสัชภัณฑ์ และเนื้อเยื่อจากส่วนต่างๆของร่างกาย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการฉายรังสีเป็นบริษัทต่างชาติทั้งสิ้น การยืดอายุของสินค้า และทำให้สินค้าปลอดเชื้อโรคในอุตสาหกรรมด้านอาหาร ที่ขณะนี้ความต้องการของตลาดมีประมาณ 100 ตันต่อวัน แต่มีผู้ให้บริการด้านนี้เพียง 1-2 ราย ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการที่คาดว่าในอนาคตจะมีมากขึ้น และการฉายรังสีในอัญมณี ที่จะทำให้สีของอัญมณีเปลี่ยนไป เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับอัญมณีให้สูงขึ้นถึง 10-30 เท่า ปัจจุบันสทน.เป็นผู้ให้บริการการฉายรังสีอัญมณีอยู่ แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการที่มีถึงปีละ 15,000 กิโลกรัม หรือ 75 ล้านกะรัตต่อปี
นายวัฒน์ชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า “ขณะนี้บริษัทฯอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมความพร้อม เพื่อสร้างคนให้มีความรู้ทั้งในเรื่องเทคนิคและเทคโนโลยี โดยจะเริ่มต้นที่ธุรกิจการฉายรังสัในเครื่องมือแพทย์เป็นอันดับแรก เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง อีกทั้งบริษัทฯมีความพร้อมแล้วทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคคลากรที่มีความรู้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนในการก่อสร้างโรงงานประมาณ 450 ล้านบาท พร้อมเริ่มดำเนินการได้ภายในปี.2552. ตั้งเป้าว่าในระยะแรกจะมีรายได้ประมาณ 150-200 ล้านบาทต่อปี โดยดำเนินการในนามบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะได้จากการดำเนินโครงการนี้ นอกเหนือจากรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวแล้ว ยังรวมถึงการสั่งสมประสบการณ์ซึ่งจะเป็นรากฐานที่แข็งแรงในการขยายธุรกิจของ พลังงาน ของกลุ่มบริษัทสามารถ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะก้าวไปสู่ธุรกิจพลังงานรูปแบบอื่นในอนาคต โดยต้องอาศัยความช่วยเหลือและสนับสนุนจากสทน. ซึ่งเป็นเลิศทางด้านการศึกษาค้นคว้าวิจัยพัฒนาความรู้ต่างๆด้านนิวเคลียร์ และนำมาประยุกต์ให้เทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อการพัฒนาประเทศให้แข็งแกร่ง ต่อไป”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม PR.Corp.
วรรษกร ปลื้มจิตต์ (ตุ๊ก) โทร. 0-2502-8687
วทิรา ลุยากร (ใหม่) โทร.0- 2502-8236

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ