กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน "เบบินคา" และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17 – 25 สิงหาคม 2561 ทำให้เกิดสถานการณ์ภัย ใน 11 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 8 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ นครพนม บึงกาฬ และเพชรบุรี ซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อน "เบบินคา" และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17 – 25 สิงหาคม 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่มในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ หนองคาย นครพนม บึงกาฬ และเพชรบุรี รวม 65 อำเภอ 271 ตำบล 1,494 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 28,180 ครัวเรือน 93,392 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 8 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 3 จังหวัด รวม 17 อำเภอ 86 ตำบล 751 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,227 ครัวเรือน 38,875 คน ได้แก่
นครพนม น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาแก อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า อำเภอนาทม และอำเภอบ้านแพง รวม 36 ตำบล 395 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,354 ครัวเรือน 9,434 คน ปัจจุบันระดับน้ำโขงลดลง
บึงกาฬ น้ำในแม่น้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองบึงกาฬ อำเภอบุ่งคล้า อำเภอโซ่พิสัย อำเภอปากคาด อำเภอศรีวิไล อำเภอบึงโขงหลง อำเภอเซกา และอำเภอพรเจริญ รวม 44 ตำบล 340 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,376 ครัวเรือน 27,393 คน ปัจจุบันระดับน้ำแม่น้ำโขงลดลง
และ เพชรบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด และอำเภอบ้านแหลม รวม 6 ตำบล 16 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 497 ครัวเรือน 2,048 คน ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีมีแนวโน้มลดลง
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป