กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--
นายอาสิระ เตาะเจริญสุข ประธานบริษัท แม็กซ์ มวยไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปี 2561 อยู่ที่ 200 ล้านบาท เติบโตจากรายได้ปี 2560 ประมาณ 40 % เนื่องจากตลาดมวยไทยกำลังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะการถ่ายทอดสด มั่นใจในอนาคตอันใกล้จะนำศิลปะการต่อสู้มวยไทยของคนไทยไปเผยแพร่ทั่วโลก
แม็กซ์ มวยไทย ดำเนินธุรกิจเกี่ยวการการจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้มวยไทย มาตั้งแต่ปี 2013 โดยคุณนวัธ เตาะเจริญสุข จนกระทั่งในปี 2014 คุณอาสิระ เตาะเจริญสุข ได้เข้ามาบริหารอย่างเต็มตัว และปรับรูปแบบการถ่ายทอดมาเป็นมวยรายสัปดาห์ ทางช่อง CTH ได้รับความนิยมอย่างสูงเมื่อย้ายมาอยู่ช่อง8 เรียกว่าแม็กซ์ มวยไทยเป็นรายการมวยอันดับต้นๆของประเทศ โดยตอนนั้นเรามีมวยแค่3รายการคือ แม็กซ์มวยไทย รายการเดอะแชมป์เปี้ยน และ รายการมวยไทยแบทเทิ่ล
ปัจจุบัน แม็กซ์ มวยไทย เดินหน้าเต็มรูปแบบ ถ่ายทอดสดต่อเนื่องตลอด7วันเต็ม เป็นครั้งแรกของเมืองไทย ที่ช่องNOW26 ซึ่งเราจัดให้มีโปรแกรมมวยแม็กซ์ถึง 5รายการ 5รสชาด ในช่วงเวลาไพร์มไทม์ รายการมวยไทย Fighter , รายการThe Global , รายการมวยไทย Battle (18.25-20.10น. ในวันจันทร์-ศุกร์) และ รายการThe Champion , รายการ MAXมวยไทย (19.20-21.55น. ในวันเสาร์-อาทิตย์) นั่นทำให้มวยแม็กซ์ได้รับการตอบรับจากแฟนมวยทั่วประเทศอย่างสูงมากในตอนนี้ นอกจากนั้นเรายังมีอีก2โปรแกรมที่ถ่ายทอดสดที่ช่องไทยรัฐทีวี คือรายการมวยไทยเดอะฮีโร่ ในวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 16.00 น. ซึ่งทุกโปรแกรมสามารถตอบโจทย์การรับชมของแฟนมวยแม็กซ์ที่มีอยู่นับล้านคนทั่วประเทศของเราตอนนี้
'เราเป็นผู้นำด้านมวยไทย 3 ยกที่ทำเป็นรายสัปดาห์ การแจกรางวัลโบนัส การอัดฉีดให้นักมวยต้องชกสนุกทุกยก รวมไปถึงทีมงานโปรโมเตอร์กว่าสิบชีวิต ทำให้รายการมวยสนุก ใครๆ ก็ดูได้ง่าย แม้ไม่เคยดูมวยไทยมาก่อนก็สามารถสนุกไปกับรายการได้ ทำให้เข้าถึงคนกลุ่มใหญ่และชาวต่างชาติ และกลยุทธ์การทำมวย 7วันตลอดทั้งสัปดาห์ในเวลาใกล้เคียงกัน ออกอากาศช่องเดียวกัน ทำให้แฟนมวยติดตามชมและจดจำแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้เราได้นักนักชกต่างชาติมาร่วมการแข่งขัน รวมไปถึงการมีสนามมวยของตนเองที่จัดเต็มทั้งแสงสีเสียง และความบันเทิง จุดเด่นอีกประการคือเรามีมวยถ่ายทอดสดทุกวัน'
ตลาดกีฬามวยไทยถือว่ามีการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่ละค่ายต้องระดมจุดเด่นมาเปิดตลาดเพื่อให้ถูกใจแฟนมวยมากที่สุด แม็กซ์ มวยไทย จัดการแข่งขันมวยทุกวันทำให้บริษัทต้องรวบรวมนักชกจากทั่วประเทศ และทั่วโลก มาอยู่บนเวทีเดียวกัน ซึ่งการควบคุมนักมวยที่มาจากทั่วทุกสารทิศเป็นเรื่องที่ยาก แม็กซ์มวยไทยจึงต้องไปทีมโปโมเตอร์นับ 10 คน เพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์
นายอาสิระกล่าวว่า สำหรับแผนธุรกิจในปี61 คือการขยายการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก โดยเช่าสัญญาณดาวเทียม รวมไปถึงแอปพลิเคชั่นมารองรับ ตั้งเป้าขยายฐานแฟนแม็กซ์ออกไปทั่วโลก และมั่นใจว่าศิลปะมวยไทยต้องเป็นที่นิยมของตลาดโลกอย่างแน่นอน