กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 27 สิงหาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,202.90-1,207.98 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 18,650 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,550 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.14 น. ของวันที่ 27/08/61)
แนวโน้มวันที่ 28 สิงหาคม 2561
คำกล่าวของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง ลดความวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินในเชิงรุกของเฟด จนกระตุ้นแรงซื้อทองคำให้ปรับตัวขึ้น สวนทางกับดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ทั้งนี้ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ เตือนเกี่ยวกับแผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟดว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกแม้แต่เพียงครั้งเดียว อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐระบุว่า สหรัฐอาจบรรลุ "ข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่" กับเม็กซิโกในเร็วๆนี้ ในขณะที่ผู้เจรจาการค้าเม็กซิโกส่งสัญญาณความเป็นไปได้ของการแก้ไขปัญหาเรื่องกฎระเบียบด้านพลังงานของข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) ยิ่งกระตุ้นแรงขายดอลลาร์เพิ่มขึ้นจนราคาทองคำมีแรงหนุนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือที่ทวีความร้อนแรงขึ้น หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐยกเลิกแผนส่งทูตระดับสูงเยือนเกาหลีเหนือแบบกะทะหันในวันศุกร์ ขณะเดียวกันปธน.ทรัมป์ได้ตำหนิจีนว่าจีนขัดขวางความพยายามในการปลดอาวุธเกาหลีเหนือ และระบุอีกว่าการเจรจาระหว่างนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกับเกาหลีเหนือจะถูกระงับไปก่อนจนกว่าสหรัฐจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับจีนได้ ทั้งนี้หากเป็นไปตามคาดการณ์นักลงทุนต่างก็คาดหวังว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด อาจต้องชะลอออกไป และกระแสดังกล่าวจะเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำสามารถสร้างระดับสูงสุดครั้งใหม่ต่อไปได้ อย่างไรก็ตามราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดันจาก ค่าเงินบาทแข็งค่าหลุดระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือน หลังเงินหยวนและสกุลเงินภูมิภาคในภาพรวมขยับแข็งค่าขึ้น ซึ่งแบงก์ชาติจีนส่งสัญญาณใช้มาตรการพยุงค่าเงินหยวน ขณะที่การเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีนจะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนหน้า หลังจากทั้งสองประเทศได้ประกาศบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางค่อยๆขยับขึ้นในระยะสั้น แต่เนื่องจากราคาขยับขึ้นมาค่อนข้างมากอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้แบ่งขายทำกำไรเพียงบางส่วนหากราคาดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเข้าซื้ออีกครั้งหากราคามีการย่อตัวลงมาไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,194-1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคารักษาระดับไว้ได้ก็เป็นจุดที่เข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัว ซึ่งวายแอลจี มีมุมมองว่าหากแรงขายไม่มากราคาทองคำที่อ่อนตัวลงเป็นเพียงช่วงปรับฐานของราคาเพื่อสะสมแรงซื้อ สามารถลงทุนระยะสั้นโดยรอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,194 (18,400บาท) 1,182 (18,200บาท) 1,171 (18,000บาท)
แนวต้าน 1,217 (18,750บาท) 1,229 (18,950บาท) 1,235 (19,050บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,194 (18,500บาท) 1,182 (18,310บาท) 1,171 (18,140บาท)
แนวต้าน 1,217 (18,860บาท) 1,229 (19,050บาท) 1,235 (19,140บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999